มหาอำนาจ Stablecoin: จีนท้าชนดอลลาร์ สู้ศึกดิจิทัลทั่วโลก

#Stablecoin #ทันหุ้น - ข้อมูลจาก Ambcrypto ในขณะที่สหรัฐอเมริกากำลังเดินหน้าด้วยร่างกฎหมาย GENIUS ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อไม่นานมานี้ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนกำลังพยายามถ่วงดุลอำนาจที่เพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ

การผลักดัน Stablecoin ของจีน

ตามรายงานของ Reuters บริษัท JD.com และ Ant Group ได้เรียกร้องให้ธนาคารกลางจีนอนุมัติการพัฒนา Stablecoin ที่อิงกับเงินหยวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางฮ่องกง

Stablecoin ที่เสนอเหล่านี้จะถูกผูกกับเงินหยวนนอกประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มบทบาทของสกุลเงินจีนในระดับโลก ขณะเดียวกันก็ท้าทายอิทธิพลทางดิจิทัลที่ขยายตัวของดอลลาร์สหรัฐฯ

แม้จีนจะมีความทะเยอทะยานที่จะท้าทายการครอบงำของ Stablecoin ที่หนุนโดยสหรัฐฯ แต่การตามให้ทันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย รายงานจาก Bank for International Settlements ระบุว่า ปัจจุบัน Tether (USDT) และ Circle (USDC) ครองตลาด Stablecoin ที่มากกว่า 99% ของ Stablecoin ทั้งหมดผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะที่ตลาด Stablecoin ปัจจุบันมีมูลค่าเพียง 2.47 แสนล้านดอลลาร์ แต่ Standard Chartered เชื่อว่าอาจพุ่งสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028

ผู้บริหารแสดงความคิดเห็น

Wang Yongli ประธานร่วมของ Digital China Information Service Group และอดีตรองหัวหน้าธนาคารแห่งประเทศจีน กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า "คงเป็นความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ หากการชำระเงินหยวนข้ามพรมแดนไม่มีประสิทธิภาพเท่า Stablecoin ดอลลาร์"

Xiao Feng ประธานบริษัท HashKey ผู้ดำเนินการศูนย์ซื้อขายคริปโต แสดงความเห็นคล้ายกันว่า "จีนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดำเนินการได้อีกต่อไป"

อะไรอยู่เบื้องหลังการผลักดันนี้?

ดังนั้น หากการล็อบบี้ของจีนประสบความสำเร็จ จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญนับตั้งแต่การสั่งห้ามคริปโตของปักกิ่งในปี 2021 และอาจบ่งชี้ถึงกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นเพื่อส่งเสริมความเกี่ยวข้องของเงินหยวนในระดับสากลผ่านการเงินดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานของจีนในการยกระดับเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินสำรองโลกยังคงเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการควบคุมเงินทุนที่เข้มงวดของประเทศ

แม้จีนจะเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แต่บทบาทของเงินหยวนในระบบการชำระเงินทั่วโลกกลับลดลง จากข้อมูลของ SWIFT ระบุว่า อันที่จริงแล้วลดลงเหลือ 2.89% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบเกือบสองปี

ในทางตรงกันข้าม ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงรักษาส่วนแบ่งที่โดดเด่นถึง 48.46%

ดังนั้น ในขณะที่ Stablecoin ที่หนุนโดยดอลลาร์กำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้ส่งออกชาวจีน ซึ่งหลายคนในปัจจุบันนิยมใช้ USDT สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเช่น Ant Group และ JD.com กำลังเร่งดำเนินการออก Stablecoin ของตนเองเพื่อทวงคืนพื้นที่ทางการเงิน

ในขณะที่ JD.com วางแผนที่จะเปิดตัว Stablecoin ที่ผูกกับเงินดอลลาร์ฮ่องกงภายในสิ้นปีนี้ Ant Group ก็กำลังเดินหน้าขอใบอนุญาตในฮ่องกง สิงคโปร์ และลักเซมเบิร์ก เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินบนบล็อกเชนของตน

การเคลื่อนไหวเหล่านี้สอดคล้องกับการผลักดันในวงกว้างเพื่อต่อต้านการครอบงำที่เพิ่มขึ้นของดอลลาร์ดิจิทัล

ทั้งนี้ ควรสังเกตว่าข้อมูลอัปเดตเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับความหวังเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนที่กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเพิ่งทำให้ Bitcoin พุ่งสูงกว่า 110,000 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ แม้ว่าแรงผลักดันจะลดลงท่ามกลางการขาดความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม — ตอกย้ำถึงเบื้องหลังความผันผวนของการเมืองภูมิรัฐศาสตร์ของ Stablecoin

ที่มา https://ambcrypto.com/plume-crypto-gathers-steam-for-recovery-with-28-gains-since-monday-details/

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้