3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นภาคบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน

#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษีและการใช้จ่ายของปธน. ทรัมป์ซึ่งให้การอนุมัติร่างกฎหมายปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมทั้งการใช้จ่ายขนานใหญ่ โดยวุฒิสภาจะส่งร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ก่อนที่จะส่งให้ปธน. ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายภายใน4 ก.ค. นี้ขณะที่สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) เตือนว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปีและจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อรวมไปถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดอันดับเครดิตในอนาคต หากไม่มีมาตรการควบคุมหนี้ที่ชัดเจน

-ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9-0 รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และมติ 7-2 สั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนกว่าจะมีการวินิจฉัยเสร็จสิ้น โดยให้เวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามานั่งปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีแทน ซึ่งจะมีอำนาจเต็มรักษาการนายกฯ ที่จะต้องนำคณะรัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณแทนนายกรัฐมนตรี 3 ก.ค.นี้และนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีให้สามารถสั่งการเกี่ยวกับแต่งตั้งบุคลากรและงบประมาณได้

-คืนนี้จับตาดูตัวเลข ADP ขณะที่ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ 99K เพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย ที่60K สะท้อนความหวังว่าภาคเอกชนจะกลับมาจ้างงานมากขึ้น แต่อาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ จนส่งผลให้เฟด ลดดอกเบี้ยยากกว่าเดิม ในทางกลับกันหากตัวเลข ADP ต่ำกว่าคาด อาจสะท้อนถึงความเปราะบางของตลาดแรงงาน ส่งผลลบต่อ GDP ของสหรัฐ และเพิ่มความเสี่ยงไปสู่ Recession ในครึ่งปีหลัง

-บ่ายนี้คาด SET INDEX วิ่งระหว่าง 1,103-1,117 จุด

บล.เอเอสแอล ระบุว่าดัชนีช่วงเช้าปรับตัวออกข้าง หลังปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ จากความชัดเจนทางการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องและมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามนางสาวแพทองธารยังมีรายชื่อในครม. เป็นรมว.วัฒนธรรม ซึ่งต้องติดตามการวินิจฉัยชี้ขาดต่อ ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณางบประมาณปี 2569 ในช่วง ส.ค.นี้ อีกทั้งยังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐในวันที่ 3 ก.ค. นี้

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 400 จุดจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้า , ความเห็นของประธานเฟด ยังยืนยันจุดยืนระมัดระวังในการลดดอกเบี้ยและรอพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีปรับตัวออกข้างหลังขึ้นแรง ระยะสั้นไม่ต่ำกว่า 1,100 จุดลงมายังอยู่ในแนวโน้มบวก ให้แนวต้านที่ 1,115/1,120 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,100/1,109 จุด

บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ดัชนีภาคเช้ายังแกว่างตัว Sideways เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องและสั่งให้นายกฯ หยุดปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่วานนี้ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน โดยมองตลาดหุ้นภาคบ่ายมีแนวรับ 1,100 จุด ส่วนแนวต้าน 1,115 จุด

ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการเมือง หลังวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง สว. ยื่นถอดถอนนายกฯ และสั่งให้นายกฯ หยุดปฎิบัติหน้าที่ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนออกไป มีแรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ไอซีที และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี พักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,105.42 จุด ลบ 4.59 จุด หรือ 0.41% มีมูลค่าการซื้อขาย 18,323 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้