> SET >

02 กรกฎาคม 2025 เวลา 12:28 น.

CGSI คาดกลุ่มแบงก์กำไร Q2/68 ชะลอตัว เหตุสินเชื่อขยายตัวต่ำ-NIM ลดลง

#ทันหุ้น-ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ในไตรมาส 2/68 ธนาคาร 8 แห่งที่ CGSI ศึกษา ประกอบด้วย BBL, CREDIT, KBANK, KKP, KTB, SCB, TISCO และ TTB น่าจะมีกำไรสุทธิรวม 5.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 6.3% yoy และลดลง 14.1% qoq และมีกำไรก่อนตั้งสำรอง (PPOP) รวม 1.08 แสนล้านบาท ลดลง 8.8% yoy และลดลง 10.3% qoq นอกจากนี้ ยังคาดว่ายอดสินเชื่อรวมจะลดลง 2.0% yoy และลดลง 1.4% qoq และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยหรือ NIM ที่ลดลง 


กลุ่มสินเชื่อที่จะนำการเติบโตในไตรมาส 2/68 น่าจะมีเพียงสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ จากการรีไฟแนนซ์หนี้/หุ้นกู้ ขณะที่ธนาคารยังระมัดระวังสินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อย โดยเน้นกลุ่มลูกค้ารายได้สูงสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบัตรเครดิต


ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 50bp ในวันที่ 1 ม.ค.-30 เม.ย.68 จึงทำให้อัตราดอกเบี้ย benchmark ของอุตสาหกรรมธนาคารอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.67 ดังนั้นส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM)โดยรวมในไตรมาส 2/68 จึงน่าจะอยู่ในขาลง และคาดว่า NIM จะลดลง 34bp yoy และ 12bp qoq เป็น 3.24% ซึ่งจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 2/68 ลดลง 8.9% yoy และ 3.6% qoq  ขณะเดียวกันประมาณการว่ารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะเติบโต 7.9% yoy แต่ลดลง 7.6% qoq โดยคาดรายได้จะเติบโต yoy ด้วยกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนและเครื่องมือทางการเงิน


 ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI เชื่อว่า ธนาคารไทยจะทยอยปรับลดเป้าหมายทางการเงินปี 68 หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 (ธนาคารส่วนใหญ่จะประกาศผลประกอบการวันที่ 21 ก.ค. 68) โดยมองว่า downside risk ที่สำคัญต่อเป้าในปี 68 คือสินเชื่อที่เติบโตต่ำกว่าคาด, การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธปท. และอัตราการสำรองหนี้สูญที่ทรงตัว yoy อย่างไรก็ตาม ธนาคารน่าจะยังสามารถจ่ายเงินปันผลสูงสำหรับผลประกอบการปี 68 แม้ว่าสินเชื่อเติบโตชะลอตัว แต่มีอัตราส่วนเงินกองทุนสูง


**ชูหุ้น SCB-KTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม


ยังแนะนำให้คงน้ำหนักการลงทุน (Neutral) ในกลุ่มธนาคาร เพราะคาดว่ากำไรก่อนตั้งสำรอง (PPOP) จะ เติบโตช้าในอัตรา -6.0%/+3.3%/+4.3% ในปี 2568/69/70 ขณะที่เลือก SCB และ KTB เป็นหุ้น Top pick เนื่องจากธนาคารทั้งสองแห่งน่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่ 5.9-8.3% ต่อปีในปี 2568 รวมทั้งมีคุณภาพสินทรัพย์ดีและงบดุลแข็งแกร่ง


อย่างไรก็ตาม กลุ่มธนาคารจะมี downside risk หาก NPL เพิ่มสูงขึ้น และธปท.ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม ส่วน upside risk จะมาจากการที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในไทยมากขึ้น เพราะจะช่วยกระตุ้นการบริโภค รวมถึงความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลงและการลงทุนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้


Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X