SCBKEQTG ลุ้นทดสอบ High เดิม

#ทันหุ้น-รายงาน BLS Top Fundsระบุภาพรวมตลาดการลงทุนว่า ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากพัฒนาการเชิงบวกในการเจรจาการค้าระหว่างปธน.ทรัมป์ และ ปธน.สี จิ้นผิง ซึ่งช่วยหนุน Sentiment ของตลาดช่วงปลายสัปดาห์ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ ออกมาต่ำกว่าคาด และชะลอตัวลงจากเดือนก่อน สะท้อนถึงความเสี่ยงเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น จากผลกระทบนโยบายการค้า ด้านตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น +4% รับผลการเลือกตั้งที่เป็นไปตามคาด โดยตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน อี แจ-มย็อง ชนะอย่างเป็นทางการ ช่วยคลี่คลายความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

ขณะที่มุมมองการลงทุนในสัปดาห์นี้ เรายังคงเน้นกลยุทธ์ “ทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัว” ในตลาดที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และระดับ Valuation ที่ยังน่าสนใจในตลาดหุ้นอินเดีย เวียดนาม จีน และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหลีกเลี่ยงการไล่ราคา เนื่องจากหลายตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นมามาก และขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน รวมถึงความไม่แน่นอนทั้งสงครามการค้า และเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ Upside ของตลาดเริ่มมีทิศทางที่จำกัด

ตลาดหุ้นเวียดนาม (Neutral) : ตลาดหุ้นเวียดนามเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังดัชนี VNI ขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญแถวบริเวณ 1,350 จุด เราคาดว่าปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง กำไรที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และราคาหุ้นที่ยังไม่แพง จะช่วยหนุนตลาดในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นอาจเผชิญแรงขายทำกำไร หลังดัชนีปรับขึ้นต่อเนื่องใกล้แนวต้านสำคัญ เรายังคงมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นเวียดนาม แนะนำถือลงทุนต่อ และทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัวลง

ตลาดหุ้นจีน (Neutral) : ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากพัฒนาการเชิงบวกในการเจรจาการค้าระหว่างปธน.ทรัมป์ และ ปธน.สี จิ้น ผิง ซึ่งช่วยหนุน Sentiment ของตลาดช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิต ออกมาหดตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2022 แม้เรามีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นจีนโดยรวม แต่ยังคงชอบหุ้นฮ่องกงและกลุ่มเทคโนโลยีจีนมากกว่า จากนโยบายภาครัฐที่ยังสนับสนุนเศรษฐกิจและภาคเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยจำกัดความเสี่ยงด้านขาลง (Downside) ของตลาด

ตลาดหุ้นไทย (Neutral) : ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน จากความไม่แน่นอนทางการเมือง และขาดปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไป เดือน พ.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด -0.57%YoY เรามองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงเปราะบาง ทำให้ Upside ค่อนข้างจำกัดในภาพรวม เมื่อเทียบกับ Downside ที่เปิดกว้าง เราจึงแนะนำ กลยุทธ์ Selective Buy โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มที่แข็งแกร่งกว่าตลาด ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของกองทุน เรายังคงมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นอินเดีย (Neutral) : ตลาดหุ้นอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงปลายสัปดาห์จาก RBI มีมติลดดอกเบี้ยลง 0.50% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ หลังเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง เราคาดว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า นอกจากนี้อุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่ง และ Valuation ที่อยู่ในระดับน่าสนใจ เป็นโอกาสในการทยอยสะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้ ทั้งนี้ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในระยะต่อไปสำหรับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้

ทั้งนี้ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในระยะต่อไป