Bitcoin พุ่งแตะ New All Time High หลังวุฒิสภาผลักดันกฎหมาย Stablecoin

#Bitcoin #ทันหุ้น - ข้อมูลจากสำนักข่าว Bloomberg ได้ระบุว่า Bitcoin พุ่งทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ หลังจากการผลักดันร่างกฎหมาย Stablecoin ในสหรัฐฯ กระตุ้นความหวังว่าจะมีความชัดเจนด้านกฎระเบียบภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สกุลเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $110,107 ดอลลาร์สหรัฐ โดยระดับสูงสุดก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในช่วงที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม

ตลาดคริปโตได้รับแรงหนุนจากทิศทางกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากร่างกฎหมาย Stablecoin ได้รับการผลักดันในวุฒิสภา เมื่อกลุ่มสมาชิกพรรคเดโมแครตบางรายยุติการคัดค้านในวันจันทร์ที่ผ่านมา ร่างกฎหมายซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมคริปโต ขณะนี้กำลังเข้าสู่การอภิปรายในชั้นวุฒิสภา โดยมีกลุ่มสองพรรคผลักดันให้ผ่านร่างนี้ภายในสัปดาห์นี้

“นี่คือการเปลี่ยนทิศทางจากยุค Gary Gensler และ SEC ไปสู่ยุคของรัฐบาลทรัมป์ที่เปิดรับอุตสาหกรรมของเรา” Michael Novogratz ซีอีโอของ Galaxy Digital กล่าวในรายการ Bloomberg TV เมื่อวันพุธ “มันปลดปล่อยพลังงานของตลาดทั้งในและต่างประเทศ”

เนื้อหาร่างกฎหมายฉบับใหม่ได้ถูกแก้ไขให้เข้มงวดขึ้นในเรื่องการฟอกเงิน ผู้ออกเหรียญจากต่างประเทศ บริษัทเทคโนโลยี และเพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค รวมทั้งสร้างกฎเกณฑ์ที่เสมอภาคระหว่างผู้ออกเหรียญจากภายในและภายนอกประเทศ

Bitcoin เคยถูกมองว่าเป็นทรัพย์สินปลอดภัยในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวน จากการที่ทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีการค้าในอดีต ซึ่งแนวคิดนี้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ท่ามกลางการเจรจางบประมาณที่ตึงเครียดของสหรัฐฯ และหนี้สาธารณะที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

“เรากำลังเผชิญสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบาก เมื่อมีภาระหนี้มหาศาลเช่นนี้ คุณจะเห็นผลกระทบในอัตราดอกเบี้ยระยะยาว พันธบัตรถูกขายออกอย่างหนัก ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทั้งหมดนี้เป็นผลดีต่อ Bitcoin และคริปโต” Novogratz กล่าว

นักเทรดออปชันได้ตั้งสถานะที่เป็นขาขึ้นกับ Bitcoin ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยสัญญา Call ที่ราคา $110,000, $120,000 และ $300,000 ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 27 มิถุนายน มีปริมาณการเปิดสถานะ (Open Interest) สูงที่สุด ความต้องการสัญญา Call ระยะสั้นที่หมดอายุก่อนปลายเดือนมิถุนายนที่มีราคาเกิน $110,000 เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Amberdata

การล้างพอร์ตของทั้งฝั่งขาขึ้นและขาลงยังอยู่ในระดับปานกลาง โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มูลค่าการล้างพอร์ตอยู่ที่ราว $200 ล้าน ตามข้อมูลจาก Coinglass

จำนวน Open Interest สำหรับสัญญาฟิวเจอร์ส Bitcoin ใน CME Group เพิ่มขึ้น 23% จากจุดต่ำสุดของปีในเดือนเมษายน ขณะที่ในเดือนพฤษภาคม นักลงทุนได้ลงทุนในกองทุน ETF Bitcoin ของสหรัฐฯ รวมกว่า $3.6 พันล้าน

Bitcoin ปรับตัวขึ้นแล้วราว 14% ตั้งแต่ต้นปีนี้ เอาชนะสินทรัพย์เสี่ยงอื่นอย่างหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนี Nasdaq 100 ลดลงราว 2% นับตั้งแต่เดือนธันวาคม

ปัจจัยผลักดันการปรับตัวขึ้นคือความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากบริษัทของ Michael Saylor (อดีต MicroStrategy) ซึ่งได้สะสม Bitcoin ไว้กว่า $50 พันล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน นักขุด Bitcoin บริษัทขนาดเล็ก รวมถึงบริษัทใหม่ที่ก่อตั้งโดยผู้มีอิทธิพลในวงการคริปโต ต่างพยายามเสนอตราสารการลงทุนใหม่ เช่น หุ้นกู้แปลงสภาพ หรือหุ้นบุริมสิทธิ์ เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการเข้าถึง Bitcoin ในรูปแบบต่างๆ

บริษัทในเครือของ Cantor Fitzgerald LP กำลังร่วมมือกับ Tether และ SoftBank เพื่อจัดตั้ง Twenty One Capital Inc. ซึ่งจะดำเนินธุรกิจแบบเดียวกับ Strategy ของ Saylor ขณะที่บริษัทย่อยของ Strive Enterprises Inc. ที่ก่อตั้งโดย Vivek Ramaswamy ก็กำลังควบรวมกิจการกับ Asset Entities Inc. ที่จดทะเบียนใน Nasdaq เพื่อจัดตั้งบริษัทถือครอง Bitcoin

การพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ทรัมป์เตรียมพบกับกลุ่มผู้ถือ Memecoin รายใหญ่ที่สุดของเขาในงานเลี้ยงค่ำที่สนามกอล์ฟใกล้กรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดี ซึ่งนักวิจารณ์ด้านจริยธรรมต่างแสดงความกังวลว่า งานนี้อาจถือเป็นการเข้าถึงผลประโยชน์ผ่านธุรกรรมที่เอื้อประโยชน์โดยตรงต่ออดีตประธานาธิบดี และอาจเป็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์

ที่มา https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-05-21/bitcoin-rises-to-record-on-optimism-around-us-regulations?srnd=homepage-asia