Bitcoin ใกล้จบเทรนด์ขาลง 10 สัปดาห์ เตรียมทดสอบ $90,000 หรือไม่?

Bitcoin ใกล้จบเทรนด์ขาลง 10 สัปดาห์ เตรียมทดสอบ $90,000 หรือไม่?

ปัจจุบัน Bitcoin กำลังฟื้นตัวจากแนวโน้มขาลงตลอดสิบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม หลังจากราคาขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ $110,000 หากราคาปิดเหนือเส้นแนวโน้มได้อย่างเด็ดขาด อาจนำไปสู่โมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งต่อไปในช่วงวันข้างหน้า

นักเทรดสปอตหนุนการพุ่งขึ้นของ Bitcoin

ตลอดเดือนมีนาคม นักเทรดสปอตบน Binance และ Coinbase มีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยนักเทรดบน Binance เป็นผู้ขาย BTC อย่างหนัก ในขณะที่ Coinbase มีคำสั่งซื้อจำนวนมากที่ระดับราคา $80,000 ทำให้ราคา Bitcoin เคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเดือนมีนาคม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่เดือนเมษายน นักเทรดสปอตบนกระดานซื้อขายหลักเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นในช่วงสามวันที่ผ่านมา

ภาพ Cointelegraph/TradingView

ข้อมูลจาก aggr.trade ชี้ให้เห็นว่าคำสั่งซื้อสปอตจาก Coinbase และ Binance กำลังผลักดันราคา Bitcoin ให้สูงขึ้น โดยแรงซื้อบน Coinbase นั้นสูงเป็นพิเศษ โดยมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นสูงถึง $7.98 ล้านภายในไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

เช่นเดียวกัน Dom นักวิเคราะห์ตลาดคริปโต ได้ระบุว่าการพุ่งขึ้นของ Bitcoin ในขณะนี้ อาจเป็นผลมาจากการที่นักขายฝั่ง Binance ลดลง โดยเขากล่าวว่า

"BTC เริ่มมีโอกาสฟื้นตัวตั้งแต่แรงขายจาก Binance ลดลง และเรายังเริ่มเห็นแรงซื้อสปอตจากฝั่ง Binance เป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์"

Bitcoin พลิกแนวต้านสำคัญ $84K - $85K เป็นแนวรับ

ในเชิงเทคนิค Bitcoin ได้เปลี่ยนแนวต้านที่สำคัญระหว่าง $84,000 - $85,000 ให้กลายเป็นแนวรับ และยังสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) 50 วัน, 100 วัน และ 200 วันได้

อย่างไรก็ตาม Bitcoin อาจเผชิญกับแรงกดดันที่ระดับ $87,700 - $88,700 ซึ่งเป็นแนวต้านจากจุดสูงสุดก่อนหน้านี้ หากไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ อาจมีการปรับฐานหรือสะสมพลังอยู่ในกรอบราคาปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเชิงบวกในการทดสอบแนวต้านที่ $90,000 อีกครั้งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 7 มีนภาพ Aggr.trade

ในทางกลับกัน หากราคาย่อตัวกลับไปที่แนวรับปัจจุบันที่ $84,000 - $85,000 อาจทำให้ตลาดขาขึ้นสูญเสียความมั่นใจ และเปิดทางให้ฝั่งนักขาย (short sellers) กลับมาคุมทิศทางราคาอีกครั้ง

การปิดราคาต่ำกว่า $85,000 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อาจเป็นสัญญาณยืนยันว่าแนวโน้มขาขึ้นถูกยกเลิก

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com

ภาพ Cointelegraph/TradingView

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/bitcoin-price-on-verge-of-breaking-10-week-downtrend-is-90-k-btc-next

ทรัมป์ ลงนามคำสั่ง เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้า 10% ทั่วโลก

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดอัตราภาษีศุลกากรต่อคู่ค้าและอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับการนำเข้าทั้งหมดจากทุกประเทศ

ทรัมป์กล่าวว่าภาษีตอบโต้จะอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของอัตราภาษีที่ประเทศคู่ค้ากำหนดสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตัวอย่างเช่น จีนมีอัตราภาษี 67% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ดังนั้น สหรัฐฯ จะกำหนดภาษีตอบโต้สินค้าจีนที่ 34% นอกจากนี้ ทรัมป์ยังประกาศกำหนดภาษีมาตรฐาน 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด

ทรัมป์กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ภาษีศุลกากรจะทำให้ประเทศกลับมาเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจดังเช่นศตวรรษก่อนๆ

“ตั้งแต่ปี 1789 ถึงปี 1913 เราเป็นประเทศที่ได้รับการสนับสนุนจากภาษีศุลกากร สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ร่ำรวยมากถึงขนาดที่ในช่วงทศวรรษปี 1880 พวกเขาได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับเงินจำนวนมหาศาลที่พวกเขาเก็บได้”

"แล้วในปี 1913 ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจเข้าใจได้ พวกเขาได้ตั้งภาษีเงินได้ขึ้นมา ทำให้ประชาชนต้องเป็นผู้จ่ายแทนที่จะเป็นประเทศต่างๆ" ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์นำเสนอภาษีศุลกากรผ่านมุมมองของการคุ้มครองเศรษฐกิจและนัยว่าจะกลับไปสู่นโยบายเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 19 โดยใช้ภาษีเหล่านี้มาแทนที่ภาษีเงินได้

ทรัมป์ยังเสนอแนวคิดการยกเลิกกรมสรรพากร (IRS) และให้เงินทุนแก่รัฐบาลกลางโดยเฉพาะผ่านภาษีการค้าในขณะที่ยังอยู่ในช่วงการหาเสียงในเดือนตุลาคม 2024

ตามข้อมูลของบริษัท Dancing Numbers ซึ่งเป็นบริษัทบัญชีและซอฟต์แวร์อัตโนมัติ แผนของทรัมป์นั้นสามารถช่วยให้ผู้เสียภาษีชาวอเมริกันประหยัดภาษีได้คนละ 134,809-325,561 ดอลลาร์ ตลอดชีวิต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฮาวเวิร์ด ลุตนิค ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ยังแสดงความสนับสนุนให้มีการแทนที่กรมสรรพากร (IRS) ด้วย “External Revenue Service” อีกด้วย

ลุตนิกกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถจัดทำงบประมาณให้สมดุลได้ แต่กลับเรียกร้องเงินจากพลเมืองมากขึ้นทุกปี ภาษีศุลกากรจะช่วยปกป้องคนงานชาวอเมริกันและเสริมสร้างเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกด้วย เขากล่าว

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/president-trump-signs-reciprocal-tariff-executive-order

ผู้ก่อตั้ง OnlyFans จับมือ HBAR Foundation ยื่นซื้อ TikTok ในสหรัฐฯ ก่อนเส้นตาย 5 เม.ย.

มีรายงานว่า Zoop แอปโซเชียลที่สร้างขึ้นโดย Tim Stokely ผู้ก่อตั้ง OnlyFans และ HBAR Foundationได้ยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อแอปแชร์วิดีโอ TikTok ในสหรัฐอเมริกา

ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันที่ 2 เมษายน HBAR Foundation และ Zoop ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อประมูล TikTok ต่อรัฐบาลทรัมป์ โดยข้อเสนอดังกล่าวจะร่วมวงแข่งกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่รายอื่นๆ เช่น Amazon, Oracle, Microsoft และ Rumble โดยเป็นความพยายามในการรักษาบริการของแอปแชร์วิดีโอให้ยังคงให้บริการแก่ผู้ใช้ในสหรัฐฯ

RJ Phillips ผู้ร่วมก่อตั้ง Zoop กล่าวตามรายงานระบุว่า "การเสนอราคาของเราสำหรับ TikTok ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนความเป็นเจ้าของเท่านั้น แต่เป็นการสร้างกรอบแนวคิดใหม่ที่ทั้งผู้สร้างเนื้อหาและชุมชนของพวกเขาจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากมูลค่าที่พวกเขาสร้างขึ้น"

ในปี 2024 รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมาย และอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ลงนามในร่างกฎหมายที่อาจห้าม TikTok หากบริษัทไม่แยกการดำเนินงานออกจากบริษัทแม่ในจีนอย่าง ByteDance โดยกำหนดเส้นตายเบื้องต้นสำหรับการขายบริษัทภายใต้กฎหมายดังกล่าวคือวันที่ 19 มกราคม และหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไป 75 วัน ทำให้การขาย TikTok ที่อาจเกิดขึ้นนั้นต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 5 เมษายน

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com

ภาพ reuters.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/hbar-foundation-onlyfans-founder-tik-tok

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews

Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

Telegram คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/