Circle เดินหน้าลุย! ยื่น IPO กับ SEC อย่างเป็นทางการ เตรียมเทรดในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

Circle Internet Group ผู้ให้บริการ Stablecoin ของสกุลเงินดิจิทัลได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ภายใต้สัญลักษณ์ “CRCL” ตามใบแจ้ง การจดทะเบียนแบบฟอร์ม S-1 วันที่ 1 เมษายน กับ SEC

Circle ไม่ได้ระบุรายละเอียดจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายหรือราคาเป้าหมายในการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก และเอกสารยื่นยังแสดงให้เห็นอีกว่า Circle มีรายได้ 1.67 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบเป็นรายปี

รายได้สุทธิในปีที่แล้วอยู่ที่ 155.6 ล้านดอลลาร์ ลดลง 41.8% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ปี 2022 ขาดทุนสุทธิ 761.7 ล้านดอลลาร์

จากเอกสารที่ยื่นต่อ SEC ระบุว่ารายได้ของ Circle กว่า 99% ในปีที่แล้วมาจากเงินสำรองของ Stablecoin โดยบริษัทสร้างรายได้จากการถือตั๋วเงินคลังที่ให้ผลตอบแทน

Circle เคยพยายามเปิดตัวสู่สาธารณะผ่านการควบรวมกิจการของบริษัทเพื่อการซื้อกิจการเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษ (SPAC) ในปี 2021 ซึ่งบริษัทได้ยกเลิกในเดือนธันวาคม 2022 และพยายามเปิดตัวอีกครั้งในเดือนมกราคม 2024 ผ่านการยื่นเอกสารลับต่อ SEC

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com

ภาพ crypto-news-flash.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/circle-files-initial-public-offering

จับตา! Grayscale ยื่นขอจด Digital Large Cap ETF ที่ถือ BTC,ETH,SOL,ADA,XRP

บริษัทจัดการสินทรัพย์ Grayscale ได้ยื่นขอจดทะเบียนกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ที่ถือครองตะกร้าสินทรัพย์คริปโตหลากหลายรายการ ตามเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC)

เมื่อวันที่ 1 เมษายน Grayscale ได้ส่งแบบฟอร์ม S-3 ไปยัง SEC ซึ่งเป็นเอกสารที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนกองทุนที่ยังไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ให้กลายเป็น ETF

กองทุนที่ Grayscale ยื่นขอ คือ Grayscale Digital Large Cap Fund ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2018 แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็น ETF ปัจจุบัน กองทุนนี้ถือพอร์ตสินทรัพย์คริปโตที่ประกอบไปด้วย Bitcoin (BTC), Ether (ETH), Solana (SOL), XRP และ Cardano (ADA)

ณ วันที่ 1 เมษายน กองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) กว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเปิดให้เฉพาะนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม (Accredited Investors) เท่านั้น ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Grayscale

ETF ดัชนีคริปโตกำลังมาแรง

การยื่นขอครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก NYSE Arca ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ ได้ขออนุญาตจดทะเบียนกองทุนดัชนีของ Grayscale ไปเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมปีที่แล้ว

Grayscale และผู้ออก ETF รายอื่นๆ กำลังเร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์คริปโต หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นำแนวทางที่ผ่อนคลายมากขึ้นต่อกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล

ในเดือนธันวาคม SEC ได้อนุมัติ ETF ดัชนีคริปโตชุดแรก ซึ่งสนับสนุนโดย Hashdex และ Fidelity แต่ ETF ดังกล่าวถือเพียง Bitcoin และ Ether เท่านั้น และตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ ยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้าไม่มากนัก

นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ SEC ยังได้รับคำขอเกี่ยวกับ ETF คริปโตมากกว่าสิบรายการ ซึ่งครอบคลุมเรื่องต่างๆ เช่น การให้บริการ Staking, ตัวเลือกสำหรับกองทุนที่มีอยู่ และข้อเสนอสำหรับกองทุนที่เน้น Altcoins อย่าง SOL และ XRP

นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมมองว่า ETF ดัชนีคริปโต กำลังเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ออกกองทุนใน Wall Street หลังจาก ETF ที่ถือครอง BTC และ ETH ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว

“ก้าวต่อไปที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ ETF ดัชนี เพราะนักลงทุนจะสามารถลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คล้ายกับที่คนซื้อกองทุน S&P 500 ผ่าน ETF นั่นเอง และสิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้นกับตลาดคริปโต” — Katalin Tischhauser หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของธนาคารคริปโต Sygnum กล่าวกับ Cointelegraph ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com

ภาพ pintu.co.id

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/grayscale-files-digital-large-cap-etf-cryptocurrencies

Bitcoin เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม! การขุดด้วยพลังงานถ่านหินลดลงเหลือ 20%

การใช้เชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนในการขุด Bitcoin ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา โดยการใช้พลังงานถ่านหินก็ลดลงอย่างมากเช่นกัน

สัดส่วนการใช้พลังงานถ่านหินในการขุด Bitcoin ตามรายงานฉบับใหม่ระบุว่าลดลงจาก 63% ในปี 2011 เหลือเพียง 20% ในปี 2024 ตามรายงานใหม่ที่เผยแพร่โดยองค์กรอุตสาหกรรม MiCA Crypto Alliance ร่วมกับแพลตฟอร์มข้อมูลเมตริกความเสี่ยง Nodiens

ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งของพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในการขุด Bitcoin ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตเฉลี่ย 5.8% ต่อปี

ข้อมูลนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของการขุด Bitcoin ไปสู่โซลูชันพลังงานที่สะอาดและยั่งยืนมากขึ้น โดยการศึกษานี้คาดการณ์การลดคาร์บอนและการบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ BTC เพิ่มเติมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ตามข้อมูลของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ซึ่งเป็นองค์กรนโยบายระหว่างรัฐบาลที่มีฐานอยู่ในกรุงปารีส การใช้ถ่านหินทั่วโลกพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในปี 2024 โดยประเมินไว้ที่ 8.8 พันล้านตัน

ตามข้อมูลของ IEA ความต้องการพลังงานถ่านหินทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จนถึงปี 2027 เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม จะเห็นการบริโภคถ่านหินเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com

ภาพ cryptoslate.com

ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/bitcoin-mining-renewables-rise-coal-decline-2030