11 มีนาคม 2025 เวลา 06:40 น.
#ทันหุ้น - เมื่อปลายเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ได้จัดการหารือกับ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ก่อนหน้านี้ ธปท. มองว่า อัตราส่วนเงินกู้ต่อมูลค่าหลักทรัพย์ (LTV) เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการ เก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่หลังจากมาตรการ LTV สิ้นสุดในปี 2565 ยอดจองซื้อยังคงปรับตัวลดลง -3% YoY ในปี 2566 และ -4% ใน ปี 2567 นอกจากการผ่อนคลายเกณฑ์LTV แล้ว ยังมีมาตรการอื่นๆ ที่ขอให้ดำเนินการได้แก่ 1. การลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองเหลือ 0.01% 2. การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่าสำหรับผู้มีรายได้ต่ำและกลาง 3.การลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 50% ในปี 2568 และ 4.การปรับขนาดที่ดินให้เล็กลง
การซื้อเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ที่ใกล้สถานที่ทำงานและการลงทุนในที่อยู่อาศัย ซึ่งหมายความว่าตลาดคอนโดจะได้รับประโยชน์สูงสุด จากมาตรการ LTV เมื่อดูจากข้อมูลล่าสุดจากธปท. เมื่อมีการใช้เกณฑ์ LTV ในไตรมาส 4 ปี 64 ยอดจองซื้อโครงการคอนโดในปี 2565 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% YoY ในขณะที่ยอดจองซื้อโครงการแนวราบอยู่ที่ 1.66 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 12% YoY โดยปกติหลังจากที่ธปท. ประกาศผ่อน คลายเกณฑ์ LTV เราจะเห็นการเติบโตของยอดจองซื้อที่แข็งแกร่งภายใน 1-2 ไตรมาส หลังจากการประกาศ เนื่องจากผู้ซื้อมักจะต้องขอสินเชื่อจาก ธนาคาร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนในการอนุมัติ
เมื่อมองไปยังโครงการคอนโดมิเนียม RTM ในไตรมาส 4 ปี 67, SPALI มีคอนโด RTM มากที่สุดที่ 1.9 หมื่นล้านบาท (67% ของรายได้ที่คาดการณ์ในปี 2568) ตามมาด้วย AP ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท (29%) และ SIRI ที่ 7.1 พันล้านบาท (18%) ดังนั้นเราคาดว่า 3 บริษัทนี้จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการผ่อน คลายเกณฑ์ LTV ในปี 2568
อ้างอิงข้อมูลบทวิเคราะห์ Residential Property & Bank ฉบับ 25 ก.พ.2568
หากธปท. ผ่อนคลายอัตราส่วนเงินกู้ต่อมูลค่าหลักทรัพย์ (LTV) เพื่อช่วยเหลือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้ซื้อบ้าน จะเป็นการหนุนธุรกิจธนาคารโดยอ้อม เนื่องจากธนาคารจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการอนุมัติ สินเชื่อใหม่ให้กับผู้ซื้อบ้าน เราไม่คาดหวังว่ามาตรการนี้จะส่งผลให้สินเชื่อธนาคารที่เราให้คำแนะนำเติบโตมากในปีนี้ เนื่องจากธนาคารยังคงเน้นการประเมินเครดิตอย่างละเอียด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป เรามองว่าธนาคารที่มีพอร์ตสินเชื่อที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้โดยอ้อม นำโดย SCB, TTB และ KTB โดยหลังจากที่ธปท. ผ่อนคลายมาตรการ LTV ในไตรมาส 1 ปี 63 อุปสงค์สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นจากธนาคารพาณิชย์ในช่วง 4 ไตรมาสหลังจากมาตรการนี้ดำเนินการ อย่างไรก็ดีลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถอ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ผ่านเว็บไซต์หลักทรัพย์บัวหลวง
ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม