21 พฤศจิกายน 2024 เวลา 06:20 น.
#ทันหุ้น-การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเสร็จสิ้นไปแล้ว และได้โดนัลด์ ทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อีกครั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐ S&P500 Index ค่าเงิน US Dollar และ Bitcoin ล้วนปรับพุ่งขึ้นตอบรับต่อการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์
Goldman Sachs ทำการประเมินว่าการคว้าชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกัน ด้วยนโยบายการลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% สู่ 15% จะส่งให้ S&P500 Index ปรับเพิ่มขึ้นได้อีกกว่า 4% ภายในสิ้นปี 2024
เมื่อย้อนเวลากลับไป ในช่วงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก ในปี 2017-2020 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีของตลาดหุ้นสหรัฐ S&P500 Index ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 67.77% เหนือกว่า MSCI World Index ที่ขึ้นตามในช่วงเวลาดังกล่าว 53.60% และมากกว่าตลาดหุ้นยุโรป STOXX600 ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเพียง 10.40% ในช่วงปี 2017 – 2020
ทั้งนี้ ในช่วงปี 2017-2020 กลุ่มหุ้นใน S&P500 Index ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดคือ Information Technology สามารถบวกได้ถึง 160% รองลงมาเป็นกลุ่ม Consumer Discretionary บวก 100% กลุ่ม Health Care บวก 63% Real Estate บวก 50% Finance 35% ส่วนกลุ่ม Energy ลงหนักลบไป -48%
จะเห็นได้ว่าในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากจะเป็นช่วงเวลาทองของ Information Technology แล้วยังเป็น Consumer Discretionary หรือกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่ให้ผลตอบแทนดีด้วย หุ้น Estee Lauder ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องสำอาง สกินแคร์ แบรนด์หรูปรับพุ่งในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 248% เช่นเดียวกับ NIKE บริษัทผู้ผลิตออกแบบผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกปรับพุ่งกว่า 178%
กลุ่ม Finance แม้ไม่ใช่ตัวชูโรงในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่หุ้นเสือนอนกินอย่าง VISA และ Mastercard ปรับเพิ่มขึ้น 179% และ 245%
ที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น Information Technology โดยเฉพาะกลุ่ม Semiconductor หุ้น Advanced Micro Devices หรือ AMD ผู้นำด้าน Data Centre สามารถปรับเพิ่มขึ้นในช่วง2017-2020 ได้ถึง 708% ส่วน Broadcom Inc หรือ AVGO ปรับเพิ่มขึ้นมาเบาๆ 147%
ทั้งนี้เป็นที่คาดหมายกันว่า การกลับมาคืนบัลลังก์ของโดนัลด์ ทรัมป์ และการกวาดสภาคองเกรสทั้งสภาบนและล่าง ด้วยนโยบายการลดภาษีนิติบุคคล บวกกับนโยบาย "America First" จะส่งผลให้หุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีลักษณะ Growth Stocks (กระจุกอยู่ในกลุ่ม Information Technology, Communication Service และ Consumer Discretionary) ปรับเพิ่มขึ้นแรง
ล่าสุด Goldman Sachs ปรับเป้าหมาย S&P500 Index สิ้นปี 2025 เป็น 6,300 จุด หรือมี Upside จากระดับปัจจุบันถึง 9% โดยปรับ EPS Growth เป็น 11% และโตต่อในปี 2026 อีก 7% โดยมองกลุ่มหุ้นใน Russell2000, Consumer Discretionary และ Communication Service ได้ประโยชน์จากการปรับลดภาษีนิติบุคคลมากที่สุด
โดยสรุปในยุคสมัยที่ 2 ของ โดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่า S&P500 และบรรดาหุ้นกลุ่มต่างๆ น่าจะเคลื่อนไหวให้ผลตอบแทนได้ดีไม่แพ้ยุคแรก (2017-2020)
กลุ่มเด่นอย่าง Consumer Discretionary มอง Estee Lauder และ NIKE เป็นหุ้นที่น่าสนใจ
Estee Lauder มีรายได้ในปี 2023 15,910 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2024 คาดว่ารายได้จะอ่อนตัวเล็กน้อย 1.9% มาที่ 15,608 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับกำไรสุทธิจะมาอยู่ที่ 935 ล้านดอลลาร์สหรัฐหดตัวแรง 25% Forward PER อยู่ที่ 29.7 เท่า สูงกว่ากลุ่มที่มีค่า Forward PER 19.1 เท่า Valuation ที่ยังค่อนข้างแพง ขณะที่ประสิทธิภาพทำกำไรของ Estee ไม่สูงมากนัก ROE ปี 2024 อยู่ที่ 7.1 เท่า บรรดานักวิเคราะห์จาก Bloomberg Consensus จึงให้ถือ 86% ให้ซื้อเพียง 15.6% ด้วยราคาเป้าหมาย 81.86 ดอลลาร์ มี Upside 29.4% จากราคาวันที่ 6 พ.ย. ที่ 63.3 ดอลลาร์
NIKE มีรายได้ในปี 2023 51,217 ล้านเหรียญสหรัฐ +9.6% YoY โดยปี 2024 คาดว่าจะอ่อนตัวมาที่ 50,012 ล้านเหรียญสหรัฐ -3% YoY เช่นเดียวกับกำไรสุทธิจะเหลือ 5,651 ล้านเหรียญ -6.3% YoY อย่างไรก็ตาม NIKE เป็นหุ้นที่มีประสิทธิภาพการทำกำไรสูง ROE 40 เท่า Forward PER อยู่ที่ 24.8 เท่า สูงกว่ากลุ่มที่ 23.7 เท่า นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Consensus ซื้อและถือเท่ากันที่ 47.7% โดยมีราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 92.18 เหรียญ Upside 22.4% จากราคาวันที่ 6 พ.ย. ที่ 75.3 เหรียญ
กลุ่ม Finance ที่เป็นเสือนอนกิน อย่างผู้ให้บริการรับชำระสินค้าและบริการVISA และ Mastercard
VISA มีรายได้ในปี 2023 32,653 ล้านเหรียญสหรัฐ +11.4% YoY โดยปี 2024 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 10% เป็น 35,926 ล้าน เช่นเดียวกับกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 12.75%YoY สู่ 20,435 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตามด้วยความที่ VISA มีประสิทธิภาพทกำไรสูง ROE 52.5 เท่า Valuation จึงค่อนข้างแพง Forward PER 27.1 เท่า สูงกว่ากลุ่ม 17.2 เท่า นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Consensus ยังคงแนะนำให้ซื้อ 81.3% และถือ 18.8% โดยมีราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 323.95 เหรียญ Upside 26.6% จากราคาวันที่ 6 พ.ย. ที่ 307.4 เหรียญ
Mastercard มีรายได้ในปี 2023 25,098 ล้านเหรียญสหรัฐ +12.9% YoY และคาดว่าจะเพิ่มอีก 11.7% YoY .ในปี 2024สู่ 27,226 ล้านเหรียญ เช่นเดียวกับกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 16.77%YoY สู่ 13,012 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ Mastercard มี ROE สูงมากๆถึง 169 เท่าทำให้ Mastercard มี Valuation แพงจัดๆ Forward PER 32.5 เท่า สูงกว่ากลุ่ม 17.2 เท่า นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Consensus ยังคงแนะนำให้ซื้อ 85.4% และถือ 14.6% โดยมีราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 553.71 เหรียญ Upside 34.8% จากราคาวันที่ 6 พ.ย. ที่ 521.1 เหรียญ
กลุ่ม Semiconductor เก็บไว้เพื่ออนาคต Advanced Micro Devices และ Broadcom Inc
Advanced Micro Devices หรือ AMD มีรายได้ในปี 2023 22,680 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวเล็กน้อย -3.9% YoY แต่คาดว่าจะพลิกมาโตในปี 2024 9.9% YoY สู่ 24,295 ล้านเหรียญ เช่นเดียวกับกำไรสุทธิจะ เพิ่มขึ้น 86.9%YoY สู่ 1,941 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ ROE ยังค่อนข้างต่ำ 1.54 เท่า จึงทำให้ Valuation จับต้องได้ Forward PER 29.7 เท่า ต่ำกว่ากลุ่ม 32.3 เท่า นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Consensus ยังคงแนะนำให้ซื้อ 80% และถือ 20% โดยมีราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 185.2 เหรียญ Upside 27.7% จากราคาวันที่ 6 พ.ย. ที่ 145 เหรียญ
Broadcom Inc หรือ AVGO มีรายได้ในปี 2023 35,819 ล้านเหรียญสหรัฐ +7.9% YoY และคาดว่าจะเติบโตต่อในปี 2024 อีก 32% สู่ 46,815 ล้านเหรียญ เป็นกำไรสุทธิ 11,607 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้านประสิทธิภาพการทำกำไร AVGO มี ROE 60.1 เท่า แต่ Valuation ยังไม่แพงมาก Forward PER 28.7 เท่า สูงกว่ากลุ่ม 32.3 เท่า นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Consensus ยังคงแนะนำให้ซื้อ 89.4% และถือ 8.5% โดยมีราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 194.64 เหรียญ Upside 103% จากราคาวันที่ 6 พ.ย. ที่ 179.5 เหรียญ
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นสหรัฐเพื่อตอบรับกับการกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ ในหุ้น Estee, NIKE, VISA, Mastercard, Advanced Micro Devices, Broadcom ตอนนี้ธนาคารกรุงไทยได้ นำมาให้ทุกท่านลงทุนผ่าน DRx ได้แล้ว บนแอปฯ Streaming และ AomWise
Estee Lauder ในรหัส ESTEE80X
NIKE ในรหัส NIKE80X
VISA ในรหัส VISA80X
Mastercard ในรหัส MA80X
Advanced Micro Devices ในรหัส AMD80X
Broadcom ในรหัส AVGO80X
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม