ดันไทยฮับฟินเทค บิทคับชี้อนาคต กูรูถกหุ้น-คริปโท

#คริปโท #หุ้น #ทันหุ้น – รัฐบาลลั่นกลาง Bitkub Summit 2024 พร้อมเดินหน้าดันไทยฮับฟินเทค ด้านบิ๊กบิทคับเปิดจุดเปลี่ยนโลก ไทยต้องเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล “เสี่ยยักษ์-ประกิต” เห็นพ้องหุ้นไทยยังไปได้ ขณะที่วงการมองคริปโทมีอนาคต DCA บิทคอยน์ได้

นายวรวงศ์ รามางกูร  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงาน Bitkub Summit 2024 ว่า รัฐบาลพร้อมที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางฟินเทค การสร้างพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล การส่งเสริมการใช้ CBDC เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและโปร่งใส ตลอดจนสร้างระบบนิเวศ ปรับปรุงพัฒนามาตรฐานและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมดิจิทัล และสร้างแรงจูงใจทางด้านภาษีและการสนับสนุนเงินทุน

@จุดเปลี่ยนโลก

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยในงาน Bitkub Summit 2024 ว่า จุดเปลี่ยนจากนี้ต่อไป คือการเข้าสู่ Regionalization มากขึ้น ภายในปี 2025 ทุกประเทศสมาชิกอาเซียนจะลงนามร่วมกันภายใต้ “กรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน” หรือ DEFA หรือ Digital Economy Framework Agreement  ซึ่งจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น ซึ่งสามารถดึงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์เข้ามาได้ โดยอินโดนีเซียจะมีการเติบโต 150% ขณะที่ประเทศในกลุ่ม CLMV ก็จะมีการเติบโต 300-500% ดังนั้นไทยจะต้องอัพสเกล ด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เม็ดเงินต่างๆ จะมีการกระจายออกจากจีน และมาอาเซียนมากขึ้น

@ส่องหุ้นไทยไปได้

นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือ เสี่ยยักษ์ นักลงทุนรายใหญ่ ประเมินหุ้นไทยผ่านพ้นจุดต่ำแล้ว เนื่องจากทุกคนรู้ปัญหาของเศรษฐกิจไทยที่ไม่ได้เติบโตมากนักในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นหากรัฐบาลตั้งใจที่แก้ไขปัญหาก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ และที่ผ่านมาดอกเบี้ยก็ลงมาแล้ว มองว่าปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะดีกว่าในช่วงที่ดัชนีหุ้นอยู่ในระดับ 1,300 จุด

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด มองว่าหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นจนถึงในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า

@ถกอนาคตหุ้นคริปโท

ด้านเพจ EarthDeFIRE ได้สรุปหัวข้อ สินทรัพย์ดิจิทัล VS หุ้น ศึกชิงบัลลังก์การลงทุนแห่งอนาคต

โดย นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์  ผู้ร่วมก่อตั้งเหรียญ SIX Network และ PLN Plearn ผู้บริหารกองทุน 500 TukTuks และ Whale Ground ระบุว่า ส่วนตัวลงทั้ง 2 สินทรัพย์ คือ คริปโท และถือ BTC ส่วนใหญ่ แต่ควรมีหุ้นด้วย ต้องเลือกดูรายละเอียดบริษัท แต่ชอบคริปโทมากกว่า และมองว่า คริปโท ยังมี Upside อีกเยอะ เนื่องจากหากมองหุ้น APPLE บริษัทเดียวมูลค่าใหญ่กว่าตลาดคริปโททั้งหมด โดยคริปโทนับเป็น Global From Day One โดยสินทรัพย์อย่าง Bitcoin มีคุณค่าและช่วย Hedge เงินเฟ้อได้ แต่ต้องแบ่งสัดส่วนพอร์ต และแนะนำให้เข้ารูปแบบ DCA

ด้านนายเฉลิมชัย ศิรินันทวิทยา บรรณาธิการบริหาร “หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น”กล่าวว่า การลงทุนจะต้องเข้าใจสินทรัพย์ และ Supply & Demand ของสินทรัพย์ โดยถ้า Demand ของสินทรัพย์นั้นเพิ่มมี ควรจะไปทิศทางดี ดูกราฟประกอบ / เข้าใจพฤติกรรมนักลงทุนในสินทรัพย์นั้นๆ มองว่า รัฐบาลใหม่กำลังผลักดันประเทศอยู่ อาจจะเป็นโอกาสให้มีการเติบโตใหม่ เช่น Entertainment Complex และ Data Center และมองว่าหากผู้กำกับปลดล็อก CBDC ให้การเชื่อมกับเหรียญต่างๆ จะช่วยผลักดันอาจจะทำให้เศรษฐกิจฝั่งดิจิทัลเติบโต

นายนิรันดร์  ประวิทย์ธนา  Co-Founder & CEO Avareum Capital กล่าวว่า หุ้น/คริปโท เสมือนกัน เป็นสินทรัพย์การลงทุน ซึ่งมีความเสี่ยงทั้งคู่ ให้ดูความเสี่ยงที่รับได้ โดยเทคโนโลยีการเงินจะสร้างประสิทธิภาพช่วยลดตัวกลางออกไปมีความโปร่งใส โดยแนะให้ดูกลไกของ Asset Allocation ของรายใหญ่ ถ้ากฎของกองทุน ออกมาเช่น ต้อง BTC 5-10% แล้ว ราคาพุ่งเกิน ก็ต้องบังคับขายออกมา ตามนโยบาย แต่ถ้า BTC ราคาลง ก็ต้องขายสินทรัพย์อื่น และ เข้ามาซื้อ BTC แทน

นายมานิตย์ ศรายุทธิกรณ์  นักลงทุนและเจ้าของเพจ Bert Manit กล่าวว่า ปัจจุบันลงทุนหุ้นและคริปโทอย่างละครึ่ง ที่ผ่านมาคริปโทโตดีกว่าหุ้น แต่หุ้นยังมีภาษีดีกว่า เพราะมีปันผล เก็บให้ลูกหลานได้ แต่ คริปโท ถ้ายกเว้นบิทคอยน์ คงเอาแน่เอานอน ไม่ได้ โดยมองว่าหุ้นก็เชื่อมคริปโทได้ เช่น บริษัทลงทุนคริปโทเป็นส่วนประกอบ โดยวิธีดูหุ้นให้ดู Global Trend เช่น AI / Data Center รวมถึง Entertainment Complex โดยดูสถิติถ้ามีปริมาณมาร์จิ้น/บล็อกเทรด น้อยๆ เหลือ 10-20% อาจเป็นโอกาสในการเข้าตลาด และให้จับตามองหุ้นยักษ์ อเมริกา เช่นหุ้ น 7 นางฟ้า ถือว่าเสี่ยงน้อยกว่า

นายพีรพัฒน์ เพ็ชรดิษฐ์ (พี่หมี) ผู้ก่อตั้งเพจ เทรดเดอร์หน้าหมีแต่ชอบหมาระบุว่า คริปโทเปลี่ยนชีวิตตัวเอง ให้ดูเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะคริปโทเปลี่ยนเงินแสนเป็นเงินล้านได้ ไม่ต้อง Leverage แต่ก็เปลี่ยนเงินแสนเหลือหลักพันได้ มองคริปโทเป็นตลาดของรายย่อยที่แท้จริง การที่ไทยผลัดดันด้าน Blockchain Hub อาจะทำให้เม็ดเงินต่างประเทศ ช่วยเพิ่ม GDP ได้ มองว่ามีบริษัทใหญ่ ต้องการ บิทคอยน์ มากมาย แค่ซื้อ DCA Bitcoin ทำเงินได้มากกว่า

นายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า WAVE BCG ในฐานะผู้ให้บริการ Climate Solution แบบครบวงจรนำไปสู่ความยั่งยืนได้รับเกียรติให้ เป็นที่ปรึกษาในการจัดงาน Bitkub  Summit รูปแบบ Carbon Neutral Event หรืองานอีเวนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน  และได้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับ Bitkub ตั้งแต่การประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กร และจนถึงการใช้ใบรับรองพลังงานหมุนเวียนเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้ Bitkub ได้เป็น Green Exchange รายแรกๆ ของประเทศไทย โดยที่ผ่านได้รับมอบหมายให้เป็นที่ปรึกษา บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMTจนได้รับใบประกาศนียบัตรคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กรแล้ว

ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.new