บลจ.ยูโอบี ชี้หุ้นเทคยังน่าสน จัดพอร์ตหลักเน้นตราสารหนี้

#บลจ.ยูโอบี #ทันหุ้น บลจ.ยูโอบี ยังคงชอบหุ้นสหรัฐ แม้นโยบายของไบเดนจะทำให้หุ้นกลุ่มเทคร่วงก็ตาม แต่จากมุมมองที่ภาคธุรกิจต้องใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคยังคงน่าสนใจ ขณะเดียวกันแนะลดความผันผวนให้พอร์ตด้วยการถือตราสารหนี้โลก เป็นสัดส่วนหลักของพอร์ต พร้อมออกกองทุนใหม่ UGISFX-SSF เพิ่มทางเลือกวางแผนภาษี ด้วย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ว่า ดัชนีแนสแด็ก (Nasdaq) ปรับตัวลงกว่า 3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลเรื่องการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐภายหลัง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พิจารณาบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดกับบริษัทกลุ่มเทคที่ให้ทางบริษัทของจีนเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐ ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนขายหุ้นในกลุ่มเทค และกลุ่มบริษัทผลิตชิป

อีกทั้ง นักลงทุนยังมีการย้ายการลงทุนออกจากหุ้นที่มีขนาดใหญ่ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทเทครายใหญ่ไปยังหุ้นขนาดกลางถึงเล็ก ส่งผลให้ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงาน (Energy),อสังหา (Real Estate) และ สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Staple) ปรับตัวได้ดีกว่าตลาด ในขณะที่กลุ่มของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเทคปรับตัวลงแย่กว่าตลาด

*ลดดอกเบี้ย ก.ย.นี้

นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยของเฟด (Fed) จะเกิดขึ้นในเดือน กันยายนนี้ รวมถึงโอกาสที่สหรัฐจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ลดลงมาก ซึ่ง บลจ.ยูโอบี มองว่าการที่เศรษฐกิจสหรัฐในระยะข้างหน้าจะเติบโตได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงมีโอกาสปรับคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนเพิ่มเติมได้อยู่บ้าง

จากมุมมองข้างต้น บลจ.ยูโอบี ยังคงสนับสนุนการลงทุนในหุ้นได้ แต่หากเศรษฐกิจชะลอตัวลงในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานจะไม่เป็นผลดีต่อการลงทุน โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นสหรัฐ ซึ่งการที่หลายบริษัทได้ให้ความสำคัญกับ นวัตกรรม และปรับประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจผ่านการลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีจะสนับสนุนผลประกอบการบริษัทใน กลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีในไตรมาส 2/2567 ได้โดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น และคาดว่าจะมีโอกาสสร้างผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องไปได้จากน เช่นกัน

-เพิ่มโอกาสหุ้นเอเชีย

บลจ.ยูโอบี แนะนำให้ถือลงทุนและหาจังหวะสะสมเพิ่มเติม หุ้นคุณภาพ ที่สถานะทางการเงินในภาพรวมที่ยังอยู่ในระดับที่สามารถสร้างกำไรต่อเนื่องได้ แม้ต้นทุนทางการเงินจะปรับขึ้นมา นอกจากนี้หุ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ภูมิภาคเอเชีย (EM Asia) เป็นอีกกลุ่มที่ บลจยูโอบี มองว่าจะได้รับอานิสงส์ด้านบวกจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ยังขยายตัว ร่วมกับมุมของแวลูชัน (Valuation) ที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตลาดพัฒนาแล้ว (DM) แต่ให้ระมัดระวังเพิ่มขึ้นในช่วงใกล้เลือกตั้งสหรัฐ

โดยการลงทุนในหุ้นจีนอาจต้องโฟกัส ใน กลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตดี (Potential Growth) นอกเหนือจากกลุ่มอสังหา ที่พื้นฐานยังไม่ฟื้นตัว แม้นักลงทุนจะคาดหวังต่อนโยบายสนับสนุนเพิ่มเติมจากทางการในระยะถัดจากนี้ อย่างไรก็ตาม แนะนำลงทุนแบบกระจายประเทศที่น่าจะได้รับประโยชน์ทั้งเศรษฐกิจโลกเติบโต และการบริโภคภายในประเทศแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ การที่รายได้องค์กร (Corporate earning) ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพที่มีการกระจายอย่างเหมาะสมและมีอัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดย บลจ. ยูโอบี ยังคงแนะนำ ลงทุนตราสารหนี้ เป็นสัดส่วนหลักของพอร์ต (Core Global Fixed Position) เน้นตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ และมีการกระจายแหล่งที่มาของรายได้ (Income) ที่หลากหลาย ในขณะที่ดูเรชัน (Duration) หรืออายุเฉลี่ยของตราสารในกองทุนไม่ยาว ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ที่ดี รวมถึงยังช่วยปกป้องพอร์ตได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวน

สำหรับจังหวะในการเข้าลงทุน ในระยะข้างหน้าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะยังคงในกรอบสูง และอาจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อที่ต้องใช้เวลาอีกระยะในการชะลอตัวลงสู่กรอบเป้าหมาย ดังนั้นการปรับความคาดหวังของตลาดในการลดอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลง บลจ.ยูโอบี มองว่าระดับปัจจุบันเป็นจุดเข้า สะสมในกลุ่มกองทุนตราสารหนี้โลกที่เน้นการสร้าง Income ที่ดี

*เสิร์ฟกองใหม่UGISFX-SSF

บลจ.ยูโอบี ได้นำเสนอ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ เอฟเอ็กซ์ ฟันด์ (UGISFX) เมื่อช่วงต้นเดือน กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อโอกาสกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก โดยเปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และเพื่อขยายโอกาสการลงทุนให้ครอบคลุมทุกเป้าหมายการลงทุน จึงได้นำเสนอ กองทุน UGISFX-SSF รองรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี โดยเริ่มเสนอขายตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไปเสนอขายตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป

กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ เอฟเอ็กซ์ ฟันด์ (UGISFX-SSF) ระดับความเสี่ยง 5 มีนโยบายการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (FX Hedging) หรือไม่ก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน คือ กองทุนจะเปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนนี้เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ PIMCO GIS Income Fund (Class I) (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว

กองทุนหลักมีกลยุทธ์สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว ด้วยการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก มีการบริหารแบบยืดหยุ่นปรับพอร์ตลงทุนให้มีความสอดคล้องกับภาวะตลาด เน้นการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูง เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดผันผวน บริหารจัดการโดย PIMCO ผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญการลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลก 

กองทุนหลักให้ความสำคัญกับคุณภาพและสภาพคล่องของสินทรัพย์ที่ลงทุน โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและมีสภาพคล่อง โดยเพิ่มการลงทุนใน Agency MBS ที่ผู้จัดการกองทุนหลักมองว่ามีระดับราคาที่น่าสนใจ

ดังนั้น กองทุน UGISFX-SSF จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการวางแผนภาษี และมองหาโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกผ่านกองทุนหลักและโอกาสรับผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงเวลาที่ลงทุน