MTC กำไร 1.39 พันลบ. เพิ่ม 29.84%

#MTC #ทันหุ้น - บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 1,389.38 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.66 บาท เพิ่มขึ้น 29.84% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 1,070.08 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.50 บาท

บริษัทชี้แจงว่า กำไรสุทธิรวม สำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 เท่ากับ 1,389 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 20.95

จำนวนสาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 มีจำนวน 7,788 สาขา เพิ่มขึ้น 251 สาขา จากวันที่ 31ธันวาคม 2566

อัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 เป็นร้อยละ 3.03 (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 ร้อยละ 3.17 และ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ร้อยละ 3.11 )

อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเป็น 3.60 เท่า

ภาพรวมผลการดำเนินงานบริษัทฯและบริษัทย่อย

ผลการดำเนินงานรวมสำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม จำนวน 1,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 319 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29.81

1 . รายได้รวมสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 จำนวน 6,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.76

2. ค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหารสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 จำนวน 2,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 278 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.82 โดยค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน อันเนื่องมาจากการขยายสาขาและบุคลากรประจำสาขา และค่าเสื่อมราคา

3. ต้นทุนทางการเงินสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 จำนวน 1,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 283 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.41 อันเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน

4. ขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 จำนวน 858 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 96 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.06

5. กำไรสุทธิรวมสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 จำนวน 1,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 319 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29.81

1. สินทรัพย์รวม

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวมเป็น 153,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2566 จำนวน 3,007 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.00 สาเหตุหลักจากจำนวนยอดสินเชื่อคงค้างที่เพิ่มขึ้น

2. หนี้สินรวม

ณ วันที่ 31 มีนาคม 256 7 บริษัทฯมีหนี้สินรวม 1 19,872 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2566 จำนวน 1,633 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.38 สาเหตุหลักจากเงินกู้ยืม และหนี้สินตามสัญญาเช่าที่เพิ่มขึ้น

3. ส่วนของผู้ถือหุ้น

ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 256 7 มีจำนวน 33,291 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2566 จำนวน 1,374 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 1 จากสิ้นปี 2566 ปัจจัยหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสำหรับงวดจำนวน 1,389 ล้านบาท