นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า วานนี้ (29 เม.ย.67) ราคาหุ้น NDR ในช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรง โดยปรับตัวสูงสุดไปที่ระดับ 2.22 บาท บริษัทมองว่ายังไม่มีปัจจัยสนับสนุนที่เป็นสาระสำคัญ หรือทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจบริษัทยังให้ความสำคัญกับการติดตามราคาวัตถุดิบ ซึ่งแนวโน้มในไตรมาส 2/2567 มีโอกาสที่ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทจะต้องมาพิจารณาแผนการดำเนินงาน โดยอาจจะปรับขึ้นราคาขายให้กับลูกค้าต่างประเทศ แต่อาจจะไม่ปรับขึ้นสูงเนื่องจากการแข่งขันด้านราคาดุเดือด
สำหรับทิศทางธุรกิจในไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา ดูแล้วน่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 4/2566 และน่าจะเป็นบวกต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาส 2/2567 อย่างไรก็ตามบริษัทขอดูทิศทางในเดือนพฤษภาคมก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ถึงจะบอกทิศทางโดยรวมของไตรมาส 2/2567 ได้ แต่ในเมษายนมีวันหยุดเป็นจำนวนมาก จึงยังมองภาพรวมไม่ชัดเจน
ภาพรวมคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ในช่วงไตรมาสแรกถือเป็นไปตามเป้า ส่วนในไตรมาส 2/2567 ยังคงบอกไม่ได้ชัดเจน ปัจจุบันบริษัทใช้กำลังผลิตอยู่ราวๆ 70% ถือว่าเป็นกำลังการผลิตที่ช่องการขยายเพิ่มเติม หากมีออเดอร์เข้ามา
สำหรับภาพรวมธุรกิจ และผลประกอบการปี 2567 โดยรวมบริษัทมองว่าจะดีกว่าปี 2566 ตามราคาต้นทุนวัตถุกิบที่ค่อยๆ ปรับตัวลดลง และการบริหารจัดการภายในของบริษัท ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะผลักดันอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ให้สูงกว่าปีก่อน และคาดผลประกอบการจะพลิกมีกำไร เพราะบริษัทเห็นสัญญาณการเติบโตที่ดีในช่วง 2 เดือนแรกปี 2567
ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะขายสินค้ามาร์จิ้นสูงหรือสินค้าไฮมาร์จิ้นให้มากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีสีดส่วนยอดขายจากโปรดักต์มาร์จิ้นสูงราว 20% และคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 40-50% ของยอดขายรวม หากเป็นไปตามแผน คาดจะเห็นภาพตัวเลขมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ส่วนยอดขาย มองการเติบโตไว้ที่ 5-10% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ไม่สูง เพราะบริษัทต้องการผลักดันมาร์จิ้นมากกว่า นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุนในธุรกิจใหม่ และยังไม่มีความชัดเจน
สำหรับทิศทางการขยายตลาด บริษัทมองว่าปัจจุบันยังทำตลาดในแถบเอเชียเป็นหลัก แต่ในอนาคตบริษัทมองหาโอกาสการเติบโตไปยังตลาดตะวันออกกลางหรืออเมริกาใต้ ซึ่งยังเป็นตลาดที่ไปไม่ถึง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อหาช่องทางในการเติบโตในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากโซนนั้นเป็นพื้นที่ที่มีการใช้มอเตอร์ไซค์เช่นเดียวกัน
อนึ่งปี 2566 บริษัทมียอดขายที่ 838.79 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 64.97 ล้านบาท
นายชัยสิทธิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผน และมองหาธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมทัพธุรกิจ แต่ปัจจุบันเป็นเพียงการศึกษาข้อมูล ยังไม่มีอะไรชัดเจน ทั้งนี้บริษัทมีกระแสเงินสดในมืออยู่ที่ราว 50 ล้านบาท ที่ไม่ได้ใช้ในทางธุรกิจ และหากต้องการลงทุนธุรกิจอื่น คาดจะเพียงพอต่อการลงทุน
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม