#TU #ทันหุ้น 

- วันจันทร์ ติดตามการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยุโรปประจำเดือนเม.ย. โดยตลาดคาดว่าจะออกมาที่ -14.70 จากเดือนก่อนหน้าที่ -14.90

วันอังคาร :ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนในเดือนเม.ย. จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน โดยตลาดคาดที่ 50.30 จุด จากเดือนก่อนหน้าที่ 50.80 จุด พร้อมทั้งติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ จาก Consumer Board โดยตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 104.1 จากเดือนก่อนหน้าที่ 104.7

วันพุธ : ติดตามการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตในเดือนเม.ย. ของสหรัฐ (ISM mfg. PMI) โดยตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลงสู่ 50.10 จุด จากเดือนก่อนหน้าที่ 50.30 จุด แม้ตลาดมองว่าดัชนีดังกล่าวจะปรับตัวลง อย่างไรตามหากตัวเลขที่ออกมายังอยู่เหนือ 50 จุด สะท้อนว่าภาคการผลิตยังมีการขยายตัว ต่อด้วยผลการประชุมเฟด โดยตลาดคาดว่า FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่กรอบเดิมที่ 5.25 - 5.50% ตามการส่งสัญญาณของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงก่อนหน้านี้

วันพฤหัสบดี :ติดตามตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานของสหรัฐ ในเดือนมี.ค. โดยตลาดคาดที่ 1.60% MoM จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.40% MoM

วันศุกร์ : ติดตามการรายงานตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐ ประจำเดือนเม.ย. โดยตลาดคาดว่าอัตราการว่างงานจะออกมาใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.80% ขณะที่ตลาดคาดว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะออกมาที่ 250,000 ราย ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที 303,000 ราย

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย : KS เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,340-1,380 จุด ปัจจัยต่างประเทศถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (PCE) ไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้น 3.4% ส่วน Core PCE เพิ่มขึ้น 3.7% และ GDP ไตรมาส 1 ประกาศครั้งแรกขยายตัวเพียง 1.6% ต่ำกว่าคาด ส่งผลให้เฟดยังคงต้องคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงไว้นานขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แม้ GDP จะโตต่ำคาดแต่ยังอยู่ในโซนขยายตัว  ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool มองเฟด ลดอัตราดอกเบี้ยปีนี้เหลือ 1 ครั้งในเดือน ก.ย. สำหรับปัจจัยภายในประเทศอยู่ในช่วงรายงานผลประกอบการ และตลาดได้ซึมซับเรื่อง Digital Wallet ที่จะเริ่มไตรมาส 4 ไปแล้ว มุมมองตลาดหุ้นไทยน่าจะแกว่งตัวออกด้านข้าง เป็นการสลับกลุ่มและหุ้นเล่นเก็งกำไรงบของบริษัทจดทะเบียน ส่วนนักวิเคราะห์ประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยปี 2567 ปรับลดลงที่ 92.74 (-0.34% WoW) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2.77%

ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,340 – 1,380 จุด ปัจจัยต่างประเทศถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐ อยู่สูง คาดเฟดคงดอกเบี้ยสูงไว้นานขึ้น.ปัจจัยภายในประเทศรับรู้โครงการ Digital Wallet ไปแล้ว คาดสลับกลุ่มกับหุ้นเล่นเก็งกำไรงบ นักวิเคราะห์ปรับกำไรตลาดหุ้นลดลงที่ 92.74

PTTEP : ราคาพื้นฐานที่ 185 บาท

รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 1.87 หมื่นลบ. สอดคล้องกับประมาณการของเรา คาดกำไรไตรมาส 2/67 จะปรับดีขึ้นจากราคาน้ำมัน ปริมาณการขายที่สูงขึ้น และอัตราภาษีที่ลดลง ปรับประมาณการกำไรปี 2567-68 ขึ้น 11% และ 1% จากการปรับสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเป็น 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสมมติฐานเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ที่อ่อนค่าลง คงคำแนะนำ “ซื้อ” และเพิ่ม TP เป็น 185 บาท จากแนวโน้มกำไรและเงินปันผลปี 2567 ที่แข็งแกร่ง ความเสี่ยงที่ลดลงจากการเพิ่มความเข้มงวดในการคว่ำบาตรรัฐบาลเมียนมาของสหรัฐ อาจเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญ

TU : ราคาพื้นฐานที่ 15.90 บาท

ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน คาดกำไรปกติไตรมาส 1/67 จะอยู่ที่ 854 ลบ. เพิ่มขึ้น 7.2% YoY แต่ลดลง 25.3%QoQ คิดเป็น 15.8% ของประมาณการกำไรปกติปี 2567 ของเราที่ 5.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 16.3% YoY ผลงานของ TU มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/67 เป็นต้นไป จากต้นทุนปลาทูน่าที่ลดลงและความต้องการส่งออกที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าอุปสงค์อาหารทะเลแช่แข็งจะมีแนวโน้มอ่อนแอ YoY แต่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งหลังของปี 2567

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=