#ทันหุ้น - บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ส่อง CKP คาด Q1/67F ขาดทุน -449 ลบ. ตามปัจจัยฤดูกาลซึ่งปริมาณน้ำน้อยที่สุดของปี และขาดทุนจาก FX  โดยกำไรจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปีตามปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น โอกาสการเกิดปรากฎการณ์ลานีญา (ฝนตกหนัก) เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นบวกโดยตรงต่อปริมาณผลิตไฟฟ้า คาดกำไรปีนี้กลับมาเติบโต หนุนโดยปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรของ SPP เพิ่มขึ้น เลือกเป็นหุ้นเด่นของกลุ่มโรงไฟฟ้าต่อเนื่อง แนะนำ “ซื้อ”

คาด Q1/67F เป็นจุดต่ำสุดของปี ฝ่ายวิจัยคาดว่า CKP จะรายงานขาดทุนสุทธิ -449 ลบ. ใน Q1/67F (เทียบกับ -104 ลบ. ใน Q1/66, กำไร 543 ลบ. ใน Q4/66) ซึ่งคาดเป็นจุดต่ำสุดของปี ตามปริมาณผลิตไฟฟ้ าของน้ำงึม 2 (บ.ย่อย) และไซยะบุรี (บ.ร่วม) เป็นไปตามฤดูกาลซึ่งโดยปกติน้ำจะน้อยที่สุดใน Q1/ ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายคงที่ โดยปริมาณผลิตไฟฟ้าของน้ำงึม 2 อยู่ที่ 373 GWh (-41%QoQ, +17%YoY) และไซยะบุรี 1,053 GWh (-44%QoQ, -17%YoY) ทำให้คาดรับรู้ ส่วนแบ่งขาดทุนราว -260 ลบ.จากไซยะบุรี นอกจากนั้น ด้วยเงินบาทอ่อนค่า 6% ทำให้รับรู้ ส่วนแบ่งขาดทุนจากหลวงพระบางราว -320 ลบ. ตามขาดทุน FX จากเงินกู้สกุลเงินดอลลาร์$290m อย่างไรก็ตาม คาดกำไรจากโครงการ BIC (SPP ที่บางปะอิน) จะเพิ่มขึ้นตามต้นทุนก๊าซที่ลดลง เป็นตัวช่วยชดเชยได้บางส่วน

โอกาสการเกิดปรากฎการณ์ลานีญาเพิ่มสูงขึ้น อิงตามรายงานของ Climate Prediction Center ของ Columbia Climate School ล่าสุด (เม.ย. 67) ซึ่งคาดการณ์การเกิดปรากฎการณ์ ENSO (เอลนีโญ (ภัยแล้ง) และลานีญา (ฝนตกหนัก)) ในปีนี้พบว่าสภาพอากาศจะเปลี่ยนจากเอลนีโญเป็นเป็นกลาง (Neutral) ในช่วง เม.ย.-มิ.ย. และจะเปลี่ยนเป็นลานีญาในช่วง มิ.ย.-ส.ค. ด้วยความน่าจะเป็น 60% (เทียบกับการเกิดเอลนีโญในช่วงเดียวกันปี ที่แล้ว) รวมถึงได้ปรับเพิ่มความน่าจะเป็นของการเกิดลานีญาในช่วง 2H67F เพิ่มขึ้น โดยช่วง ส.ค.-ต.ค. 80% ก.ย.-พ.ย. 83% และ ต.ค.-ธ.ค. 86% สะท้อนว่ามีโอกาสเกิดฝนตกหนักมากขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นบวกโดยตรงต่อปริมาณผลิตไฟฟ้าของน้ำงึม 2 และไซยะบุรี ใน สปป.ลาว หลังจากปริมาณผลิตไฟฟ้าของไซยะบุรีลดลงมากในปีที่แล้ว 

การออกหุ้นกู้ชุดล่าสุดส่งผลกระทบเล็กน้อย เมื่อต้นเดือน เม.ย. CKP เพิ่งออกหุ้นกู้ชุดใหม่ รวม 4 พันลบ. อายุ 2-5 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 4.13% (อัตราดอกเบี้ยระหว่าง 3.5-4.6%) เพิ่มขึ้นราว 74 bps จากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของหุ้นกู้เดิม ซึ่งเป็นผลกระทบจากการปรับลดอันดับเครดิตหุ้นกู้จากทริสเรทติ้ง เดิม “A-“ เป็น “BBB+” เมื่อ 5 มี.ค. ทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นราว 30 ลบ./ปี ส่งผลกระทบเล็กน้อย -1.6% ต่อคาดการณ์กำไรทั้งปี ทั้งนี้ หาก CKP ออกหุ้นกู้ชุดใหม่ทดแทนชุดเดิมทั้งหมดอีก 1.1 หมื่นลบ. จะส่งผลกระทบส่วนเพิ่มอีกราว 80 ลบ./ปี

คาดกำไรปีนี้ FY67F กลับมาเติบโต หลังจากกำไร FY66 1.5 พันลบ. (-40%YoY) ลดลงแรงจากฐานสูงในปีก่อน โดยหลักจากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงมากจากไซยะบุรี -59%YoY เหลือ 857 ลบ. ตามปริมาณน้ำลดลงและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ฝ่ายวิจัยก็คาดว่ากำไรปีนี้ FY67F จะกลับมาเติบโตที่ 1.8 พันลบ. (+24%YoY) และ 2.3 พันลบ. (+26%YoY) ใน FY68F จากคาดการณ์ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากการเกิดลานีญา รวมถึงกำไรของ BIC เพิ่มขึ้นตามต้นทุนก๊าซที่ลดลง YoY และคาดค่าไฟฟ้าคงที่ตลอดปีนี้ นอกจากนั้น หากอัตราดอกเบี้ยตลาดลดลงจะส่งผลบวกอย่างมากต่อค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย เนื่องจากบางส่วนกู้เงินเป็นดอลลาร์ซึ่งต้นทุนยังสูงอยู่โดยเฉพาะไซยะบุรี

คำแนะนำ

กำไรที่เร่งตัวขึ้นและปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในปีนี้จะช่วยหนุน; แนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้น CKP ปรับขึ้นดี +27%YTD และยืนแข็งแกร่งในช่วงนี้ ซึ่ง Outperform ทั้ง SET และกลุ่มโรงไฟฟ้า ฝ่ายวิจัยมองว่ายังมีประเด็นบวกหนุนหุ้นจากกำไรที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ตามปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากการเกิดลานีญาซึ่งจะหนุนให้กำไรกลับมาเติบโตดีในปีนี้ นอกจากนั้น CKP ยังมีภาพการเติบโตระยะยาวชัดเจนจากโครงการหลวงพระบางอีกทั้งมีโอกาสกลับเข้า SET100 อีกครั้ง แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 4.9 บ. อิงวิธี DCF และเลือก CKP เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มโรงไฟฟ้าต่อเนื่อง

ปัจจัยเสี่ยง 

ความล่าช้าของโครงการลงทุน เหตุการณ์ที่ทำให้โครงการก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างพัฒนาไม่เป็นไปตามคาด ปริมาณน้ำ โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ของ CKP เป็นพลังน้ำทำให้ปริมาณน้ำในแต่ละปี มีผลมากต่อรายได้และกำไร 

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1