EA ความเสี่ยงธุรกิจลดลง โบรกปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

#EA #ทันหุ้น - บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น EA ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ”เป็น “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 42.00 บาท โดยระบุว่า ความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัทลดลง และมีโอกาสเติบโตจากการใช้เชื้อเพลิงอากาศยั่งยืน (SAF) การพัฒนาสนามบินสีเขียว EA โดยมองเห็นแนวโน้มการใช้ SAF เพิ่มขึ้นทั่วโลก EA คาดการณ์ว่าความต้องการ SAF ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 6 เท่า จาก 300 ล้านลิตรต่อวันในปี 2022 เป็น 1,875 ล้านลิตรต่อวันในปี 2024 (ประมาณการ), EA อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นสำหรับโรงงานผลิต SAF ระยะที่ 1 ซึ่งมีกำลังการผลิตเบื้องต้นที่ 10,000 ลิตรต่อวัน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในตรมาส 3 ปี 2024 หลังจากบริษัทสามารถจัดหาวัตถุดิบ (ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันทอดใช้แล้ว) ได้

ผลการประชุมนักวิเคราะห์กับฝ่ายบริหารสรุปผลงานในปี 2023 เป็นไปในทางที่ดี บริษัท EA มีรายได้รวมอยู่ที่ 31.59 พันล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 21% ตั้งแต่ปี 2019 ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตมาจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านพลังงานหมุนเวียน ในปี 2023 รายได้ 40% มาจากธุรกิจพลังงาน และ 37% มาจากธุรกิจแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 7.14 พันล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 4% ระหว่างปี 2019-2023

ตั้งเป้าหมายในการรักษาจำนวนรถบรรทุกไฟฟ้า 3,700 คันในปี 2024 EA ประเมินว่าจำนวนรถบรรทุกไฟฟ้าที่จดทะเบียนใหม่จะเพิ่มขึ้นจาก 276 คันในปี 2023 เป็น 29,334 คันในปี 2030F โดยตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าจะมีมูลค่าสูงถึง 117.3 พันล้านบาท มองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในตลาดรถบรรทุกไฟฟ้า และตั้งเป้าหมายที่จะขายรถบรรทุกไฟฟ้าให้ได้ 3,700 คันภายในสิ้นปี 2024F (โดยมียอดขาย 472 คันในปี 2024 ที่ผ่านมา)

ปรับเรตติ้งหุ้น EA เป็น "ซื้อ" (BUY) เนื่องจากมองว่าความเสี่ยงทางธุรกิจลดลง บล.ดีบีเอสฯ ปรับเรตติ้งหุ้น EA จาก "ถือ" (HOLD) เป็น "ซื้อ" (BUY) โดยยังคงราคาเป้าหมายปี 2024 (2024F TP) ที่ 42 บาท เหตุผลที่ปรับเรตติ้งมีดังนี้

ราคาหุ้น EA ได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไปแล้ว เช่น ปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน (liquidity concern) และการหมดอายุของโครงการ Adder ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง 20% ตั้งแต่ต้นปี (YTD) ขณะที่ดัชนี SET ลดลง 1% และดัชนี SETENERG ลดลง 0.4%

ความเสี่ยงทางธุรกิจลดลง เนื่องจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (cashflow from operations) และผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงไฟฟ้าทดแทน (TSB) ดีขึ้น

บริษัทมีลูกค้าในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่หลากหลาย มีโอกาสเติบโตจากธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยั่งยืน (SAF) และสนามบินสีเขียว (JV กับ AOT) แทนที่รถยนต์ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจำนวนรถยนต์เช่าทั้งหมด 3,710 คัน AOTตั้งเป้าหมายที่จะทยอยเปลี่ยนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1,180 คันในปี 2024, 760 คันในปี 2025, 1,170 คันในปี 2026 และ 600 คันในปี 2027 และแทนที่แท็กซี่/ limousine และรถปฏิบัติการสนามบินที่ใช้น้ำมันด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV มีเป้าหมายแทนที่รถยนต์ประเภทนี้สูงถึง 7,400 คัน

โดยสรุป บล.ดีบีเอสฯ มองว่าราคาหุ้น EA ได้สะท้อนปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไปแล้ว ขณะที่แนวโน้มธุรกิจโดยรวมดีขึ้น ส่งผลให้เราปรับเรตติ้งเป็น "ซื้อ" ราคาพื้นฐานที่ 42 บาท