> SET > BTS

02 เมษายน 2024 เวลา 10:17 น.

BTS น่าสนใจน้อยลง 'เคจีไอ' หั่นเป้า-คำแนะนำ

#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ คิดว่า BTS ดูน่าสนใจน้อยลงจากความไม่แน่นอนหลายประเด็น ในขณะที่ BTS ถูกกดดันมานานกว่าหนึ่งปีแล้วหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงที่ COVID-19 ระบาด ฝ่ายวิจัยมองว่าแนวโน้มผลประกอบการจะยังไม่น่าสนใจไปอีกสองสามปี ในขณะที่สัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวในปัจจุบัน (เขียวเข้ม และเขียวอ่อน)  จะหมดอายุในปี 2572 โดยยังไม่ได้ต่อสัมปทาน ดังนั้น จึงปรับลดประมาณการลงเป็นขาดทุนสุทธิ 4.76 พันล้านบาทในปี 2567F และเป็นกำไรสุทธิ 231 ล้านบาทในปี 2568F นอกจากนี้ ยังปรับลดคำแนะนำ BTS เป็น “ถือ” (จาก “ซื้อ”) โดยประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2568 (เมษายน 2567-มีนาคม 2568) ที่ 6.30 บาท


ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มของบริษัท


BTS ถูกกดดันมานานกว่าหนึ่งปีหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงที่ COVID-19 ระบาด ซึ่งนอกจากธุรกิจหลักจะฟื้นตัวช้าแล้ว ฝ่ายวิจัยคิดว่า BTS ยังได้รับผลกระทบจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 4.76 พันล้านบาทใน Q3/67 (แย่ลงอย่างมากทั้ง YoY และ QoQ) เนื่องจาก i) มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของการลงทุนใน Kerry Express (Thailand) (KEX.BK/KEX TB) ii) มีผลขาดทุนจากการด้อยค่าของการลงทุนของ Rabbit Holdings ใน Singer Thailand (SINGER.BK/SINGER TB) และ iii) ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น (+53.2% YoY) ซึ่งทำให้ผลขาดทุนของทั้งเครือในงวด 9M67 อยู่ที่ 5.28 พันล้านบาท


ประเด็นสำคัญ BTS ที่ยังต้องติดตามต่อไป ได้แก่


(-) โครงการสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวในปัจจุบัน (เขียวเข้ม และเขียวอ่อน) จะหมดอายุในปี 2572 ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้ต่ออายุโครงการนี้ และอาจจะทำให้ธุรกิจของทั้งเครือ และราคาหุ้นมี downside อีก


(-) จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองต่ำเกินคาด เราประเมินในเบื้องต้นว่า จำนวนผู้โดยสารของทั้งสองโครงการจะอยู่ที่ 100,000 คน อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้โดยสารในปัจจุบันของสายสีชมพูอยู่ที่ประมาณ 50,000 คน และสายสีเหลืองอยู่ที่ประมาณ 3.5 หมื่นคน


(+) กทม. จะจ่ายหนี้ค้างจ่าย 2.3 หมื่นล้านบาท จากยอดหนี้ค้างจ่ายรวม 5 หมื่นล้านบาท BTS จะได้รับเงินสด 2.3 หมื่นล้านบาทจาก กทม. ตามคำตัดสินของศาล ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้บริษัทชำระหนี้ได้เพิ่ม และประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลงได้


(+) VGI* ขายหุ้นทั้งหมดใน KEX ออกไป ซึ่งจะช่วยลดส่วนแบ่งผลขาดทุนจากบริษัทย่อยลง


(-) ความเสี่ยงจากากรลงทุนของ BTS นอกจาก KEX แล้ว BTS ยังรับรู้ผลขาดทุนก้อนใหญ่จากการลงทุนอื่น ๆ อีก (ได้แก่ Singer Thailand (SINGER.BK/SINGER TB), Jaymart (JMART.BK/JMART TB)*, Rabbit Holdings) ซึ่งเราคิดว่าการลงทุนของบริษัทจะทำให้ผลการดำเนินงานโดยรวมมี downside อีก


ปรับลดประมาณการกำไรจากปี 2567F 


เนื่องจากมีปัจจัยลบมากขึ้น ฝ่ายวิจัยจึงปรับลดประมาณการลงเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจากปี 2567F ไป โดยเราคาดว่าผลขาดทุนสุทธิของ BTS ในปี 2567F จะอยู่ที่ 4.76 พันล้านบาท และ ในปี 2568F จะอยู่ที่ 231 ล้านบาท


ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคิดว่า BTS ดูน่าสนใจน้อยลงจากความไม่แน่นอนหลายประเด็น จึงปรับลดคำแนะนำ BTS เป็น “ถือ” (จาก “ซื้อ”) โดยประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2568 (เมษายน 2567-มีนาคม 2568) ที่ 6.30 บาท ด้านความเสี่ยง COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าเกินคาด และความขัดแย้งทางการเมือง



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X