#JAS #ทันหุ้น - บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 2566 มีกำไรสุทธิ 19,837 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.31 บาท เพิ่มขึ้น 1,078% เทียบกับงวดปี 2565 มีขาดทุนสุทธิ 2,028 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.24 บาท  คณะกรรมการบริษัทมีมติงดจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2566

บริษัทชี้แจงผลการดำเนินงานดังนี้

กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนใน TTTBB และหน่วยลงทุน JASIF

ในเดือนพฤศจิกายน 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อย ได้ดำเนินธุรกรรมจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาซน) ("TTTBB") ที่ถือโดย บริษัท อคิวเมนท์ จำกัด ("ACU" และหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (" JASIF") ที่ถือโดยบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ("JAS'") ให้แก่กลุ่มบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด ("AWN" ทั้งนี้ได้บันทึกกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมดังกล่าวจำนวน 26,431 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานในปี 2566 มีรายละเอียดดังนี้

รายได้รวม

บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมในปี 2566 อยู่ที่ 28,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27,006 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1,510 เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,788 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจาก

รายได้จากสวนงานให้บริการอินเทอร์เน็ตทีวี ปี 2566 จำนวน 133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13,200 เมื่อเทียบกับปี 2565 ทั้งนี้นับจากการขายกิจการ 3BB แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 กลุ่มบริษัทฯ ยังคงเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่วี ภายใต้แบรนด์ 3BB GIGATV แก่ลูกค้าของ 3BB จึงทำให้รับรู้รายได้ดังกล่าวจากกลุ่ม AWN ผ่านการให้บริการแก่บริษัท ทริปเปิ้ลที่ บรอดแบนด์

รายได้จากส่วนงานสินทรัพย์ดิจิตัลและเทคโนโลยี โซลูชั่น ปี 2566 จำนวน 1,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปี 2565 เป็นผลจากรายได้จากการให้บริการวงจรเช่าในประเทศและค่าบริการวงจรเช่าส่วนบุคคลระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับรายได้จากธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ในปี 2566 มีรายได้จำนวน 129 ล้านบาท ลดลง 14 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจุบันจำนวนเหรียญบิทคอยน์รวมทั้งสิ้น 245.88630025 เหรียญบิทคอยน์ เพิ่มขึ้น 66.55934183 เหรียญบิทคอยน์ หรือ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับปีก่อน

รายได้ส่วนงานอื่น ปี 2566 จำนวน 359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 220 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 158 เมื่อเทียบกับปีก่อน หลัก ๆ มาจากการให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าองค์กร

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปี 2566 อยู่ที่ 6,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,711 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 3,510 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากต้นทุนขายและบริการ ปี 2566 จำนวน 3,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 320 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2565 สาเหตุหลักจากการขยายระบบอินเทอร์เน็ตทีวีให้รองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นและค่าคอนเทนต์

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ปี 2566 จำนวน 1,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 737 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 173 เมื่อเทียบกับปี 2565 เนื่องจากบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการศึกษาโครงการทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะลงทุนในอนาคตหลังจากการขายธุรกิจหลักอย่าง 38B ออกไป นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการจ่ายโบนัส และการปรับโครงสร้างของกลุ่มบริษัทฯ ลดขนาดองค์กรเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแนวทางแผนธุรกิจใหม่ โดยทำให้เดือนมกราคม 2567 เงินเดือนของทั้งกลุ่มบริษัท เท่ากับ 24.1 ล้านบาท ปรับลดลง 14 ล้านบาทต่อเดือน หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับก่อนปรับโครงสร้าง

นอกจากนี้ในการปรับโครงสร้างของกลุ่มบริษั มีการตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์ จำนวน 683 ล้านบาท และตั้งหนี้สินจากสัญญาที่สร้างภาระ จำนวน 955 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ไม่ต้องรับภาระในอนาคต

ผลการดำเนินงานในปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 19,837 ล้านบาทเทียบกับปี 2565 ซึ่งมีขาดทุนสุทธิ จำนวน 2,029 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 21,866 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1,078 ในขณะที่ EBITDA ปี 2566 อยู่ที่ 23,875 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25,070 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2,098 เมื่อเทียบกับปี 2565

แนวโน้มธุรกิจในปี 2567

บริษัทฯ มีแผนดำเนินธุรกิจต่อเนื่องในบริษัทย่อย และวางแผนลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจด้าน Generative A. . พลังงานสะอาด และด้านสุขภาพ เพื่อสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะสร้างความมั่นคงให้บริษัทฯ อย่างยั่งยืนในอนาคต และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง บริษัทฯ มีอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 0.66 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น Dividend Yield ประมาณร้อยละ 31 (คิดจากราคาหุ้น ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เท่ากับ 2.14) ดังรายละเอียดในตาราง 2

ลักษณะธุรกิจหลักๆ ของกลุ่มบริษัทฯ ประกอบด้วย

1. ธุรกิจด้าน media & content

ประกอบธุรกิจ Internet TV ภายใต้แบรนด์ 3BB GIGATV ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ จะยังคงสานต่อความร่วมมือทางธุรกิจ กับกลุ่มบริษัท แอดวานซ์อิน โฟร์ เซอร์วิสจำกัด (มหาชน) ("AIS") ให้บริการ IPTV ที่ในช่วงแรกจะเป็นความร่วมมือทางธุรกิจระยะเวลา 3 ปี รวมถึงมองความเป็นไปได้ในการร่วมมือกัน เพื่อพัฒนา Platform IPTV บนระบบ AIS ให้ครอบคลุมทั้งลูกค้า 3BB เดิมและ AIS Fibre อีกด้วย

2. ธุรกิจด้าน property management

มีแผนปรับปรุงพัฒนาอาคารให้สวยงามและทันสมัย สร้างภาพลักษณ์ของอาคารจัสมินฯ ให้เป็น Smart Office เพื่อตอบโจทย์แนวทางการใช้พื้นที่สำนักงานที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

3. ธุรกิจด้าน Innovation & Technology

ภายใต้บริษัทในกลุ่ม JTS ตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจโครงข่ายโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต สำหรับลูกค้าองค์กร และกำหนดเป้าหมายในการนำนวัตกรรมและทคโนโลยีใหม่ ๆ มาต่อยอดธุรกิจ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้าน Generative AI ที่คาดว่าจะสามารถเปิดตัว Generative AI ที่ฉลาดและเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาไทยได้ดีที่สุด ภายในปี 2567

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนพัฒนาต่อยอด AI ด้านการแพทย์ เพื่อเป็น Healthcare Solutions ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น การวินิจฉัยโรคเบื้องต้น จัดระบบคิว สรุปข้อมูลคนไข้ เป็นต้น

แนวทางด้าน ESG

บริษัทฯ ให้ความสนใจต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยวางแผนนำพลังงานสะอาดมาใช้ในการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้น รวมทั้งมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานสะอาดเพิ่มเติมในอนาคต

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1