JAS ขายธุรกิจหลัก-กลยุทธ์ไม่ชัด บล.กสิกรฯลดเป้าเหลือ 1.79 บ.

#JAS #ทันหุ้น – บล.กสิกรไทยให้ความเห็นต่อหุ้น JAS คาดจะมีผลขาดทุนปกติไตรมาส 4/ 66 ที่ 531 ลบ. (เทียบกับขาดทุน 1.1 พันลบ. และ 1.2 พันลบ. ในไตรมาส 4/65 และ 3/66) และคงสถานะเงินทุนสุทธิ

คาดเงินทุนสุทธิคงเหลืออยู่ที่ 1.41 บาท /หุ้น หลังจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นที่ 0.60 บาท และลงทุนใน JTS ที่ 0.20 บาท

บล.กสิกรไทยลดราคาเป้าหมายลง 20.2% เป็น 1.79 บาท และลดคำแนะนำลงจาก “ถือ” เป็น "ขาย" จากเงินปันผล และผลกระทบทางการเงินที่ไม่ชัดเจนจากธุรกิจใหม่

Investment Highlights

พรีวิวผลประกอบการ บล.กสิกรไทยคาดว่า JAS จะรายงานงบการเงินประจำปี 2566 ในวันที่ 28 ก.พ.2567 ด้วยกำไรสุทธิไตรมาส 4/2566 ที่ 1.91 หมื่นลบ. หากไม่รวมกำไรครั้งเดียวจากการขายหุ้น TTTBB และ JASIF คาดผลขาดทุนปกติไตรมาส 4/2566 จะอยู่ที่ 531 ลบ. เทียบกับผลขาดทุนปกติไตรมาส 4/2565 ที่ 1.1 พันลบ. และผลขาดทุนปกติไตรมาส 3/2566 ที่ 1.2 พันลบ. เนื่องจาก JAS เสร็จสิ้นการขายหุ้น TTTBB ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามราคาในตลาดอินเตอร์เน็ตบ้าน (FBB) และโครงสร้างต้นทุนที่เสียเปรียบคู่แข่งภายใต้รูปแบบการขายและเช่ากลับทรัพย์สินกับ JASIF

พัฒนาการ เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2566 JAS ขายหุ้นทั้งหมดใน TTTBB (100%) และ JASIF (19%) ให้กับ ADVANC ด้วยราคาขายที่ 2.837 หมื่นลบ. เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2566 บริษัทในเครือของ JAS ได้แก่ JTS จัดการประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศผลประกอบการเพื่ออัปเดตการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 รวมทั้งธุกิจเหมืองขุด BTC และธุรกิจใหม่และบริการgenerative artificial intelligence (Gen-AI) service ภายใต้พันธมิตรกับ KT จากประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2566 JAS รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าบริษัทในเครือ ได้แก่ 3BB TV บรรลุข้อตกลงกับ ADVANC ในการให้บริการด้านเนื้อหาและแพล็ตฟอร์ม IPTV กับลูกค้า FBB ของ TTTBB จำนวน 0.7 ล้านรายและลูกค้า FBB ของ ADVANC ภายใต้สัญญา 3 ปี ด้วยมูลค่า 1.14 พันลบ. เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2566 คณะกรรมการของ JAS อนุมัติการจ่ายเงินปันผลพิเศษที่ 0.60 บาท ซึ่งมีกำหนดจ่ายเงินเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2566

การใช้เงินทุนเงินทุนทั้งหมดที่ได้รับจากการขายหุ้นอยู่ที่ 2.837 หมื่นลบ. (3.3 บาท/หุ้น) เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2566 จากการคำนวณของฝ่ายวิเคราะห์พบว่าเงินทุนสุทธิ์หลังหักค่าธรรมเนียม ภาษี และการชำระคืนหนี้สินคาดจะอยู่ที่ 1.895 หมื่นลบ. (2.21 บาท) อิงจากหนังสือแจ้งตลาดฯ JAS จ่ายเงินปันผลพิเศษที่ 5.2 พันลบ. (0.60 บาท) และลงทุนในการซื้อหุ้น JTS เพิ่มเติมอีก 4.1% ที่ราว 1.7 พันลบ. (0.20 บาท ) ดังนั้น จึงคาดว่าเงินทุนสุทธิจะคงเหลืออยู่ที่ 1.205 หมื่นลบ. (1.41 บาท)

ทบทวน เราหักงบการเงินของ TTTBB และ JASIF ออกจาก JAS ในช่วงครึ่งหลังของไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี เรายังไม่รวมกำไรสุทธิที่อาจจะได้รับจากธุรกิจเหมืองขุด BTC, Gen-AI ของ JTS และ 3BB TV ในประมาณการทางการเงินของเรา เพราะกำลังรอความชัดเจนที่มากขึ้นจากทีมบริหาร เป็นที่น่าสังเกตว่าสถานะทางการเงินของ JAS แข็งแกร่งขึ้น โดยสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนดีขึ้นจาก 41.4 เท่า/20.9 เท่า/10.8 เท่า ในปี 2566/67/68 มา

เป็นสถานะเงินสดสุทธิ อย่างไรก็ดี เราไม่มีข้อมูลที่มากเพียงพอเกี่ยวกับนโยบายการบริหารเงินทุนของ JAS ดังนั้น เราจึงคาดว่าบริษัทฯ จะสำรองเงินทุนสุทธิที่เหลือเพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยลดคำแนะนำ JAS จาก "ถือ" เป็น "ขาย" ด้วยราคาเป้าหมายใหม่และลดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ลงเป็น 1.79 บาทปัจจัยฉุดมูลค่าหุ้นคาดมาจาก 1) เป้าหมายที่ไม่ชัดเจนในการใช้เงินทุนที่เหลือ 2) ทิศทางกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ไม่ชัดเจนหลังขายธุรกิจหลักและ 3) ความเป็นไปได้ที่น้อยของกำไรที่จะได้รับจากธุรกิจเหมืองขุด BTC, generative AI และ 3BB TV ขณะที่ราคาปิดล่าสุดที่ 2.16 บาท มากกว่าเงินทุนสุทธิที่เหลือที่ 1.41 บาท

ราคาเป้าหมาย บล.กสิกรไทยลดราคาเป้าหมายอิงด้วยวิธี SOTP ลง 20.2% หรือจาก 2.25 บาท เป็น 1.79 บาท ซึ่งสะท้อน 1) ต้นทุนการขายหุ้นที่ลดลง 2) การจ่ายเงินปันผลรอบแรกและ 3) การรวมมูลค่าอิงด้วยวิธี PBV ของ JTS

ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความชัดเจนที่มากขึ้น และกำไรที่จะเพิ่มขึ้นมากจากธุรกิจใหม่