#ทันหุ้น - เมื่อวานตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับที่ 1500-1503 แต่ยังสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นไปได้ แต่เราคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1480 ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 1515-1520 ขึ้นไป จะเป็นสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ SNNP หรือ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว เช่น เยลลี่พร้อมดื่มและเยลลี่คาราจีแนน ภายใต้ตราสินค้าเจเล่ ปลาหมึกอบ ปลาหมึกเส้น และปลาเส้น ภายใต้ตราสินค้าเบนโตะ และขนมขึ้นรูปและขนมปังแท่งภายใต้ตราสินค้าดอกบัว โลตัส เป็นต้น
ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 66 มีกำไรสุทธิ 156 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.16 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 115 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท
ผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิ 310 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.32 บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 221 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.23 บาท
"วิโรจน์ วชิรเดชกุล" รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ ของ “ศรีนานาพร" วางเป้าผลักดันรายได้แตะ 8,000 ล้านบาท ภายในปี 69
สินค้าของ SNNP มียอดขายจากต่างประเทศที่เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งปี 66 คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% โดยเฉพาะในเวียดนาม และยอดขายในประเทศที่คาดโตไม่ต่ำกว่า 15% หลังการบริโภคฟื้นตัว รวมถึงการรรุกทำตลาดในประเทศใหม่ ๆ โดยเฉพาะ ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย,เกาหลี,ไต้หวัน และจีน รวมทั้งจะมีสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติม
บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รายการ โดยเตรียมรุกตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ภายใต้แบรนด์ "เมจิกฟาร์ม" ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใบกระท่อม เป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว นำร่องด้วยรสชาติกลิ่นชามะนาว หลังจากมองว่า ปัจจุบันเครื่องดื่มชูกำลัง มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท บริษัทคาดหวังส่วนแบ่งการตลาดราว 5% ใน 3 ปี หรือ ยอดขาย 1 ล้านขวดต่อเดือน หรือเป็นมูลค่า 10 ล้านบาทต่อเดือน เริ่มวางตลาดวันที่ 1 ส.ค.66 ในราคาขวดละ 10 บาท
ส่วนผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Jele ซึ่งเป็นที่รู้จักในตลาดแล้ว จะมีการขยายไลน์ เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผสมวิตามินทั้งหลาย เช่น วิตามินซี ออกเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่
นอกจากนี้ ขนมขบเคี้ยว "เบนโตะ" ยังมีแผนเป็น เบนโตะ Shop แห่งแรก ในศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ ในไตรมาส 4/66 ควบคู่กับการนำสินค้าของ SNNP ร่วมวางจำหน่าย รองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น
"เบนโตะ" ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง ขณะที่บริษัทมีแผนกเปิดสายการผลิตในเวียดนาม เฟส 2 ในไตรมาส 4/66 ตามแผน คาดจะช่วยเร่งการเติบโตของมาร์จิ้นให้ทยอยเพิ่มขึ้น
การมีโรงงานในเวียดนาม ข้อดีคือ ได้ประโยชน์จากมีแหล่งวัตถุดิบที่ราคาถูกกว่าประเทศไทย เช่น ปลา ซึ่งเป็นวัตถุดิบของการผลิตเบนโตะ ที่เวียดนามจะมีต้นทุนต่ำกว่าไทย รวมถึงต้นทุนบรรจุภัณฑ์ทึ่ต่ำกว่า การใช้เครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตรูปแบบใหม่ ทำให้มีประสิทธิภาพการผลิตสูงกว่า ขณะที่ค่าแรงงาน ค่าไฟฟ้าในเวียดนามถูกกว่า ทำให้การผลิตในเวียดนามมีมาร์จิ้นที่ดีกว่าในไทย
ปัจจุบัน ยอดขายในไทยยังเป็นตลาดหลักที่มีสัดส่วนราว 75% ของยอดขายรวม ที่เหลือ 25% เป็นการขายต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นการขายใน CLMV (มียอดขายในเวียดนามมากสุดที่ 70%)
ยอดขายทั้งในประเทศที่ขยายตัวจากสินค้าใหม่ที่ได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง รวมถึงเข้าสู่ไฮซีซั่นของสแน็ค โดยจะรับรู้ยอดขายจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในช่วงกลางปีนี้ และผลิตภัณฑ์เดิมจะยังสร้างยอดขายได้ในระดับที่ดีเช่นกัน ด้านต่างประเทศเติบโตจากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่ในเวียดนาม โดยโรงงานเบนโตะคาดเริ่มผลิตในไตรมาส 4/66
จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าปี 66 รายได้แตะ 6,500 ล้านบาท หรือเติบโตเลข 2 หลัก และมีโอกาสที่จะส่งผลให้กำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปี 65 ที่มีกำไรสุทธิ 515 ล้านบาท และมั่นใจรายได้จะแตะ 8,000 ล้านบาท เร็วกว่าเป้าที่ตั้งไว้ตอน IPO
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากขนมขบเคี้ยว เบนโตะ 45% เครื่องดื่ม เจเล่ 42-43% ที่เหลือ เป็นเมจิกฟาร์มเฟรช ขนมขาไก่โลตัส
ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 และสงครามยูเครน-รัสเซีย รอบแรก ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้น ซึ่งบริษัทมีแป้งสาลี เป็นวัตถุดิบในการผลิต บริษัทจึงปรับแผนหันใช้แป้งชนิดอื่นทดแทน ทำให้มีผลกระทบจำกัด ทำให้บริษัทยังมีอัตรากำไรสุทธิจาก 8% ขึ้นมา 10% ได้ ภายใต้การบริหารจัดการต้นทุนได้ดีพอควร
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือจุดด่ำสุดเดิมที่ 20.00 หลังจากปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 23.00 ลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 23.00 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 20.00 ถ้าย้อนกลับลงไปควรขายหุ้นออกไปก่อน
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม