> SET > SCM

06 กรกฎาคม 2023 เวลา 14:19 น.

SCMซุ่มดีลใหม่เพิ่มรายได้ สิงหานี้เปิดธุรกิจฟิลิปปินส์

#SCM #ทันหุ้น – SCM ปรับทัพ ศึกษาธุรกิจใหม่ สร้างรายได้จากหลายทาง พร้อมใช้เครือข่ายที่มีกว่า 1.3 แสนรายในประเทศ เผยสิงหาคมนี้เปิดดำเนินการในฟิลิปปินส์ ต่อยอดตลาดต่างประเทศ เล็งออกสินค้าใหม่ และเครื่องมือที่ช่วยเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล ส่วนธุรกิจ MLM ปีนี้ปรับกลยุทธ์ ทำการตลาดจริงจัง ให้ความรู้นักธุรกิจ พร้อมลุยออกสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ส่วนปีนี้รายได้โต 10% จากปีก่อน


นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ผู้ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภค ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รูปแบบลักษณะเครือข่ายขายตรง (Multi-Level Marketing หรือ MLM) เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจปีนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จะทำได้ จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,180 บาท


โดยไตรมาส 1/2566 มีรายได้แล้วกว่า 260 ล้านบาท และปีนี้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ อย่างในส่วนของ กลุ่มธุรกิจ MLM ต้องยอมรับว่ายอดขายอาจจะลดลงไปบ้าง ดังนั้นจึงต้องมีการปรับในหัวหน้าทีมให้มุ่งมาที่เรื่องของการตลาดมากขึ้น จากเดิมที่จะมุ่งเน้นในเรื่องการขายเพียงอย่างเดียว และจะให้ความสำคัญกับการทำการตลาดให้ถูกกับกลุ่มเป้าหมาย


*ศึกษาธุรกิจใหม่ต่อยอด

นอกจากนี้บริษัทจะใช้เครือข่ายที่มีอยู่ประมาณ 200,000 ราย แบ่งเป็นในต่างประเทศ 70,000 ราย และในไทยกว่า 130,000 ราย ในการขยายธุรกิจ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาการ เพื่อเป็นการกระจายความหลากหลายของธุรกิจ(Diversity) รองรับการเติบโตของรายได้ในปีนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนสิงหาคม 2566 ทั้งนี้ โดยเชื่อว่า เครือข่ายที่บริษัทมีจะช่วยผลักดันการเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ


ขณะเดียวกันยังเตรียมที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นสินค้าที่สำคัญการดูแลสุขภาพบุคคล และยังมีเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์การรับประธานอาหารเสริมด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ มากที่สุด คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนกลยุทธ์ในการพัฒนาสินค้าช่วงนี้จะเน้นสินค้า ที่ราคาไม่สูงมากนัก เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม

อย่างที่ผ่านมามีการออกสบู่ราคาไม่เกิน 100 บาท และได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้ยอดแอคทีฟ (Active) ของสมาชิกมากขึ้น


 อย่างไรก็ดีบริษัทเชื่อว่ากลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของบริษัทจะแข็งแกร่งต้องมาจาก 3 ส่วน คือ 1.การเป็นบริษัทมหาชน 2. การมีหมอในบริษัท และ 3. เรื่องของการสื่อสาร ผ่าน CEO บนช่องทางโซเชียลมีเดียที่ช่วยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อต่อยอดการผลักดันสินค้าต่อไป


ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรแบรนด์ Growing More ตัวช่วยลดต้นทุนของเกษตรกร และเพิ่มผลผลิตที่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรรวม 5 รายการ Transform Plus สูตร 1 ฝาสีเขียว, สูตร 2 ฝาสีทอง และ Transform Soil ผลิตภัณฑ์ปรับปรุงดิน รวมถึงปุ๋ยธาตุอาหารหลักพืช ทรานส์ฟอร์ม เอ็น พี เค (Transform N-P-K) ชนิดน้ำ สูตร 20-6-6 สูตรที่ 1 และ สูตร 6-6-20 สูตรที่ 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา


ล่าสุดแบรนด์ Growing More ได้รับรางวัล “ผลิตภัณฑ์เพื่อเกษตรกรยอดเยี่ยม”จากเสียงโหวตของผู้บริโภค ทำให้ได้รับกระแสตอบรับดียิ่งกว่าเดิม และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโต


*ช่วงทางต่างประเทศหนุน

นอกจากนี้บริษัทเน้นเพิ่มคุณภาพสินค้า และเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายมากขึ้นเพื่อนำพาไปสู่การเพิ่มยอดขายของธุรกิจ นอกจากนี้บริษัทจะเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ เปิดสาขาใหม่ฟิลิปปินส์ในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนตลาดตะวันออกกลางที่บริษัทมีการศึกษาตลาดมองว่าอาจจะยังไม่คุ้มค่าจึงชะลอตลาดดังกล่าวไปก่อน แต่ในส่วนของเมียนมาร์และมาเลเซียก็มีแนวโน้มเติบโตได้ดี ดังนั้นบริษัทเชื่อว่าในปี 2567 บริษัทจะมีฐานลูกค้ารวมทั้งหมด 500,000 ราย

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X