> เคล็ดลับลงทุน >

30 มีนาคม 2023 เวลา 06:50 น.

เงินฝากหายไปไหน

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังการล่มสลายของ SVB Bank ได้ทำให้เกิดการแห่ถอนเงินออกฝากออกจากธนาคารในสหรัฐธนาคารกลางสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขยอดเงินฝากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 มี.ค) เงินฝากธนาคารในสหรัฐ ลดลง 9.84 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 17.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับยอดเงินฝากที่ต่ำที่สุดในรอบปี


.โดยยอดเงินฝากที่ลดลงนั้นเกิดจากการแห่ถอนเงินออกจากธนาคารขนาดเล็ก 1.20 แสนล้านดอลลาร์ ก่อนจะโยกบางส่วนไปฝากในธนาคารขนาดใหญ่ ส่งผลให้ธนาคารขนาดใหญ่ 25 แห่งมียอดเงินฝากเพิ่มขึ้นเกือบ 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์


. นอกจากนั้น ความกังวลที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ยังทำให้เกิดการถอนเงินออกจากสถาบันการเงินในรูปแบบอื่นๆ ก่อนจะโยกเข้าสู่กองทุนประเภท Money Market มากกว่า 1.17 แสนล้านดอลลาร์


. เงินฝากหาย แต่ยอดสินเชื่อกลับสูงขึ้นโดยยอดการปล่อยกู้โดยรวมของธนาคารสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.34 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 12.2 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ธนาคารในประเทศรายใหญ่ที่สุด 25 แห่งปล่อยกู้เป็นสัดส่วนราว 3 ใน 5


. ขณะที่ธนาคารขนาดเล็กเป็นผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ให้กับบางภาคธุรกิจที่สำคัญ อาทิ ภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Commercial Real Estate)


. การแห่ถอนเงินทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่องจนต้องเร่งกู้เงินจาก Fed หลังจากการล่มสลายของ SVB ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ปล่อยกู้ฉุกเฉินเสริมสภาพคล่องให้ธนาคารต่างๆรวมกัน 1.65 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เงินสำรองในงบดุลของ Fed เพิ่มขึ้นเป็น 440,000 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งสวนทางกับการลดขนาดงบดุลที่เกิดขึ้นภายใต้โปรแกรม QT


. ความเห็นของผมมองสถาวะช็อกของตลาด ได้ทำให้เกิดการถอนเงิน และมุ่งหน้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ เช่น ทองคำ และพันธบัตร หรือเรียกว่า Risk Off ตามธรรมชาติแล้วสภาวะนี้จะคงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อนักลงทุนคลายความวิตกกังวล เงินจะเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง


. ทีนี้จึงขึ้นอยู่ว่าจะไปทางไหน SVB Bank และ Credit Suisse ได้เปิดแผลให้เห็นแล้วว่าระบบการเงินธนาคารในสหรัฐและยุโรปมีหลุมดำและความเสี่ยงที่ยังมองไม่เห็นอีกมาก กระแสเงินจึงควรวิ่งหลบไปยังที่ๆมีความเสี่ยงน้อยกว่า


. ตลาดบอนด์ในเอเชีย (รวมถึงไทย) กำลังกลายเป็นแหล่งพักเงินแหล่งใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้สกุลเงินในเอเชียยังแข็งค่าต่อได้อีกนาน แต่เงินบาทไทยยังต้องระวังเรื่องการไหลออกของเงินปันผลในช่วง เม.ย.-พ.ค.


. ตลาดหุ้นในเอเชีย โดยเฉพาะโซน North Asia และ Asia Emerging กำลังเป็นเลือกในการลงทุนที่ดีกว่าฝั่ง West Market นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีของหุ้น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์ อินโดฯ และไทย



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X