06 ธันวาคม 2022 เวลา 06:20 น.
ส่วนในเชิงของผลประกอบการ เราคาดผลประกอบการใน 4Q/65 จะฟื้นเด่น QoQ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1. การฟื้นตัวของธุรกิจตรวจสุขภาพ ซึ่งปกติจะเป็น High Season ของธุรกิจ ลูกค้าองค์กรจะมีการตรวจมากในช่วงปลายปี และยังมี Pent Up Demand 2. สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กลับมาระบาดในวงกว้างอีกครั้ง โดยจำนวนผู้ป่วย CIVID-19 ในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 13%QoQ 3. บริษัทมีการเปิด คลินิกเวชกรรม จำนวน 10 แห่ง ใน 4Q/65 รองรับคนไข้บัตรทองและเงินสด 4. ผลบวกการที่ สปสช. มีการปรับรูปแบบการจ่ายเงินของบัตรทองจากเดิมอัตราคงที่ เป็นจ่ายตามจริง ส่งผลบวกต่อการรับรู้รายได้ที่ดีขึ้น โดยมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ถ้าเทียบ YoY คาดผลประกอบการจะปรับลดลงจากฐานที่สูง เนื่องจากเป็นช่วงพีคของการระบาดของ COVID-19 ซึ่งคาดว่าสัดส่วนรายได้เกี่ยวกับ COVID-19 จะลดลงจาก 4Q/64 ที่ราว 60% ลงมาเหลือ 15-20% ของรายได้รวม
เรามองว่าปี 2566 เป็นปีของการปรับฐานผลประกอบการสู่ระดับปกติ หลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ซึ่งเราคาดผลประกอบการจะชะลอตัวใน 1H/66 จากฐานที่สูงในปีก่อน ก่อนจะกลับมาเติบโตอีกครั้งใน 2H/65 ซึ่งจะรับผลบวกจากการกลับมาของคนไข้ปกติ ในกลุ่มตรวจสุขภาพ การขยายคลินิกเวชกรรม และการปรับรูปแบบการจ่ายของสปสช.ทำให้รายได้ต่อหัวสูงขึ้น ภาพรวมปี 2566 แม้เราคาดรายได้จะปรับลดลง 23% เหลือ 574 ล้านบาท แต่หากไปเทียบกับฐานรายได้ช่วงก่อน COVID-19 ในปี 2563 ถือว่ารายได้เติบโตกว่า 41% ซึ่งมาจากทั้ง Organic Growth และการขยายธุรกิจของ รพ.ประชาพัฒน์
เรามองว่าหุ้น IMH มี Upside ที่เรายังไม่ได้รวมในประมาณการ 1. โครงการสร้าง รพ.ใหม่ IMH แบริ่ง ขนาด 500 เตียง คาดเริ่มสร้างในปี 2566 แล้วเสร็จ 2568 โดยระดมทุนผ่านการ การ Spin Off รพ.ประชาพัฒน์ เข้าตลาด โดยบริษัทมองเป้ารายในปีแรกที่เปิดดำเนินงาน ในปี 2568 ที่ 2,238 ล้านบาท 2. แผนเข้าซื้อกิจการ รพ. หรือ M&A คาดว่าจะเห็นภายในสิ้นปีนี้ หรือช่วงต้นปีหน้า
แม้ว่าเราประมาณการผลประกอบการในช่วง 2H/65 – 1H/66 จะชะลอจากฐานที่สูง แต่เรามองว่าตลาดรับรู้ไปแล้ว และประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษนิยม ต่ำกว่าเป้าของบริษัทและเรายังไม่ได้รวมทั้งแผน M&A และดีลในการสร้างโรงพยาบาลใหม่ในประมาณการ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2566 เพียง 14.8x เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 24.1x และมี EV/EBITDA ปี 2566 ที่ 10.5x เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 13.9x เราประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ที่ 16.50 บาท อิงวิธี DCF ที่ WACC 9.1% และราคาปัจจุบันคาดผลตอบแทนจากปันผลงวดปี 2565 ที่ 4.3% ปี 2566 ที่ 3.1%
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามบทความของ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม