#RS #ทันหุ้น - RS รุกธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง หวังสร้าง Ecosystems ให้กับธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยง ปักธงปี 66 ขยายอีก 30-40 สาขา จากปัจจุบัน 17 สาขา สร้างรายได้กว่า 700-800 ล้านบาท จับตาไตรมาส 4/65 ผลงานเด่น

นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทย่อย Pet All (Rs ถือหุ้น 50%) ได้มีการเข้าไปลงทุนในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (Pet retail) ภายใต้แบรนด์ "ดีเด่น เพ็ทมาร์ท อาหารสัตว์ (Deeden petmart)" เพื่อเข้ามาช่วยสร้าง Ecosystems ให้กับธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยง และขยายช่องทางจำหน่ายธุรกิจอาหารและขนมสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ (Lifemate) ของบริษัทได้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงต่อยอดการเป็นผู้ให้บริการ Pet wellness แบบครบวงจร คาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้

รุกเพ็ทรีเทล

ปัจจุบัน Deeden petmart มีสาขาทั้งสิ้น 17 สาขา กระจายในกรุงเทพฯและปริมณฑล นับว่าเป็น Pet retail ที่มีการเติบโตสูง ติด 1 ใน 3ของอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าสัตว์เลี้ยงของประเทศไทย และคาดว่าในปี 2565 จะมีรายได้จากการขายมากกว่า 450-460 ล้านบาท และมีโอกาสสูงที่แตะแตะระดับ 500 ล้านบาท โดยแผนงานในปี 2566จะเดินหน้าขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 30-40 สาขา ซึ่งในตอนนี้มีจุดทำเลที่อยู่ระหว่างการศึกษาในมือแล้วกว่า 20 ทำเล คาดว่าจะเข้ามาช่วยหนุนให้รายได้จากการขายในปีหน้าอาจทะลุ 700-800 ล้านบาท

"เรามองว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงค่อนข้างมีความน่าสนใจ เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่ มีมุลค่าสูงถึงกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในระยะ 4-5 ปีต่อจากนี้ ตลาดจะยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องอีกเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 9% ต่อปี ด้วยวิถีในปัจจุบันที่เริ่มมีการขยายตัวของกลุ่ม Single Family มากขึ้น รักสัตว์เลี้ยงเหมือนคนในครอบครัว (Pet Humanization) จึงเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยง ในวันนี้เราไปลงทุนใน Pet retail แล้ว และมีเป้าหมายที่จะเป็น Pet wellness แบบครบวงจรในอนาคต"นายวิทวัส กล่าว

แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565มองว่าจะเห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 947 ล้านบาท และมีกำไนสุทธิอยู่ที่ 81.7 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากธุรกิจ Commerce ที่ยอดขายกลับมาขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ของ RS Mall และ Lifestar ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ อีกทั้งในช่วงปลายปีมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพใหม่ๆ ให้มากขึ้น นอกจากนี้ จากการลงทุน ULife ยังเข้ามาช่วยขยายฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์ในทุกช่วงอายุให้กว้างมากขึ้น

ขณะที่ธุรกิจ Entertainment ในไตรมาส 4/2565 มีการเติบโตที่ดีกว่ามากเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนทั้งจากการจับจ่ายในช่วงโค้งท้ายของปีที่มีแนวโน้มคึกคัก การจัดงานคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ต่างๆโดยในเดือนธันวาคม 2565 ยังมีงานคอนเสิร์ตใหญ่ RS Meeting อีก 1 อีเว้นท์ ซึ่งปัจจุบันตั๋วโซลเอาท์แล้วทุกที่นั่ง

ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมีความสนใจในการลงทุนธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของ RS เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีการศึกษาการลงทุนทั้งรูปแบบควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) แต่อาจไม่ทันได้เห็นในปลายปี 2565 นี้ เนื่องจากการลงทุนจำเป็นต้นใช้ระยะเวลา แต่ก็คาดหวังว่าในปี 2566 จะได้เห้นอะไรใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม

แนะซื้อเก็งกำไร

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ธุรกิจการขายสินค้า จะเติบโตต่อเนื่องจาก ULife ตั้งเป้ายอดขายกลุ่ม Pet All ปี 2566 ที่ 700-800 ล้านบาท ธุรกิจสื่อ คาดการขายคอนเทนต์ชะลอตัวลง จากไตรมาสก่อน แต่ธุรกิจโฆษณาจะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยด้านฤดูกาลคอนเสิร์ตในไตรมาส 4/2565 คาดรายได้จะเติบโต 70% จากไตรมาสก่อน แตะระดับ 150-170 ล้านบาท จากคอนเสิร์ต Kamikaze และ RS Meeting ที่ขายหมด และคอนเสิร์ตศิลปินต่างประเทศ

รวมถึงอีเวนท์ที่กลับมาจัดกิจกรรมได้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ Chase ทางฝ่ายคาดผลประกอบการน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วจากการ ตั้งสำรองฯ และฟื้นตัวในไตรมาส 4/2565 จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาทำให้ทางฝ่ายคาดกำไรของ RS จะเติบโตเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องไปอย่างน้อยอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ดังนั้น ทางฝ่ายจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร