ฟันโฟลว์ทะลักลุ้น1,705จุด ส่งแคมเปญเจาะฐานรุ่นใหม่

#BLS #บล.บัวหลวง#ทันหุ้น - บล.บัวหลวง มองฟันด์โฟลว์หวนกลับเข้าตลาดหุ้นไทย หนุนดัชนีสิ้นปีนี้แตะ 1,705 จุด พร้อมชูกลุ่มแบงก์-โรงแรมเด่นน่าสะสม ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ “BUAJOY with The Toys" ขยายฐานลงทุนคนรุ่นใหม่เพิ่ม

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือปี 2565 ยังมีโอกาสไปต่อได้ หลังทิศทางกระแสเงินทุนจากต่างประเทศ (ฟันด์โฟลว์) ในช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม 2565 เริ่มกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยในครึ่งแรกปี 2565 ออกมาเติบโตสูงถึง 26% จากเดิมที่ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินไว้เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้น โดยฝ่ายวิเคราะห์ประมาณการดัชนีสิ้นปี 2565 ไว้ระดับ 1,705 จุด

แบงก์-รร.เด่น

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนนั้นทางฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) หลังเริ่มเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวขึ้นของสินเชื่อและกำไรในไตรมาส 2/2565 ยังออกมาดีต่อเนื่อง ตลอดจนยังมีมูลค่าหุ้นที่ถือว่าไม่แพงและเหมาะสม พร้อมกันนี้ยังให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงแรม เพราะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย การเปิดเมืองและเปิดประเทศ ซึ่งส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีมุมมองกลุ่มโรงพยาบาล ที่คาดว่าในปีนี้จะมีกลุ่มคนไข้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามารักษา ช่วยหนุนรายได้จากฐานลูกค้าคนไข้กลับมา ทำให้เริ่มเห็นผลการดำเนินงานฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มค้าปลีก ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเมือง การเปิดประเทศ มีการจับจ่ายใช้สอยจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเข้ามา รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยังเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่บล.บัวหลวงให้คำแนะนำในการลงทุน ซึ่งจะมีการเติบโตไปตามความต้องการของสินค้าไอที และเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่ภาพรวมของวอลุ่มการซื้อขายของลูกค้าที่ใช้บริการซื้อขายหลักทรัพย์กับบล.บัวหลวง ในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค.นี้ ถือว่าเริ่มกลับมาซื้อขายกันมากขึ้น หลังดัชนีตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง จากการที่ตลาดรับข่าวเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆไปแล้ว ทำให้เริ่มมีการกลับเข้ามาซื้อและเก็งกำไรในตลาดหุ้น แต่อย่างไรก็ตามวอลุ่มในการซื้อขายปีนี้ยังคงเบาบาง จากการที่สภาพคล่องลดลงไป อีกทั้งมีปัจจัยเสี่ยง และความไม่แน่นอนต่างๆเกิดขึ้น ทำให้ตลาดผันผวน นักลงทุนก็ยังคงชะลอการลงทุนไปบ้าง

ผุดแคมเปญอัพฐาน

ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัทได้มีการนำกลยุทธ์ “Music Marketing” ที่เป็นการตลาดรูปแบบใหม่มาเชื่อมโยงและเปิดประสบการณ์ เรื่องการลงทุนกับคนรุ่นใหม่ ถือเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมธุรกิจหลักทรัพย์ ภายใต้ชื่อ "BUAJOY with The Toys เส้นทางลงทุนสําหรับมือใหม่” โครงการสร้างสรรค์แนวคิดการใช้ชีวิตสำหรับคนรุ่นใหม่ ผ่านเสียงเพลงที่ชื่อ "ฉันรวย" (I'm rich) ของศิลปิน The Toys จากค่ายเพลง What The Duck

เพื่อสร้างการรับรู้ถึงจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้เรื่องการลงทุนในแบบ "ร.ว.ย.” ที่หมายถึง “เรียนรู้ วิเคราะห์ แยกแยะ” โดยมีหลักทรัพย์บัวหลวงเป็น “เพื่อนสนิท คู่คิดนักลงทุน” เพื่อเจาะตลาดนักลงทุนหน้าใหม่โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ทั้งในกลุ่ม Gen Y และ Gen หวังขยายฐานลูกค้าของธุรกิจให้กว้างขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมธุรกิจหลักทรัพย์ที่ใช้การตลาดรูปแบบ "Music Marketing” เพราะส่วนใหญ่จะนิยม ใช้พรีเซ็นเตอร์หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทพบว่า ผู้ลงทุนที่มาเปิดบัญชีกับหลักทรัพย์บัวหลวงส่วนใหญ่เป็นผู้ลงทุนหน้าใหม่ และยังเป็นกลุ่ม Generation Y ทำให้บริษัทต้องก้าวไปอีกขั้นกับการทำการตลาดรูปแบบใหม่

ฐานรุ่นใหม่ใส่ใจลงทุน

เทรนด์การลงทุนของคนรุ่นใหม่จะให้ ความสําคัญกับปัจจุบัน และการมีอิสระในการใช้ชีวิต ซึ่งการมีอิสระต้องแลกมาด้วยความมั่นคง ยิ่งอิสระมากความมั่นคงก็ลดลงด้วย แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยความมั่งคั่ง เพราะความมั่งคั่งจะทำให้สามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องการได้ ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาจึงเห็นคนรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งมากขึ้น ซึ่งโครงการนี้จะเป็น เหมือนตัวแทนเพื่อนคู่คิดเรื่องการลงทุนของผู้ลงทุนมือใหม่

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าทั้งหมด650,000 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 30% ของทั้งอุตสาหกรรม โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ (Active) ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่Active ที่มีการซื้อขายหลักทรัพย์หรือกองทุนรวมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มGen Y และ Gen Z ซึ่งมองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเข้ามามากขึ้น และเริ่มมีความสนใจในการลงทุน มีการแสวงหาความรู้ใหม่ๆในการลงทุน เพื่อสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตการลงทุน ซึ่งโครงการ BUAJOY จะเข้ามาช่วยเสริมในด้านความรู้การบริหารจัดการพอร์ตและการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตให้กับนักลงทุนเหล่านี้