#TKN #ทันหุ้น-TKN ยอดขายครึ่งปีหลังดีต่อเนื่อง มั่นใจรายได้โต 10 -15%ตามเป้า ด้านตลาดต่างประเทศปีนี้ดี คาดยอดขายในสหรัฐอเมริกาทะยาน 50-60% ลุยขยายตลาดยุโรปเพิ่ม ส่วนจีนหลังคลายล็อกดาวน์หนุนคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น มีแผนออกสินค้าใหม่เพิ่มทั้งผลิตภัณฑ์สาหร่าย อื่น ๆ นอกเหนือจากสาหร่าย

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งบริษัทยังคงมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10-15%

ทั้งนี้ตลาดในต่างประเทศมีการมาขึ้นเติบโตในทุกตลาด โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งปีนี้คาดว่ายอดขายจะเติบโตประมาณ 50-60% โดยบริษัทได้ทำแผนการตลาดมุ่งสื่อสารให้ผู้บริโภคได้เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์สาหร่ายเป็นหนึ่งใน เฮลตี้ สแน็ค ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคได้ และได้เตรียมวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านร้านค้าชั้นนำอย่าง เทรดเดอร์โจส์ (Trader Joe's) ที่มีสาขากว่า 500 แห่งในสหรัฐอเมริกา คาดจะวางจำหน่ายได้ปลายไตรมาส 3/ 2565 หรือไตรมาส 4/ 2565 รวมถึงจะนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกชั้นนำในระดับท้องถิ่นของสหรัฐฯ

รวมถึงวางแผนขยายผลิตภัณฑ์สาหร่ายของเถ้าแก่น้อย ในประเทศแถบยุโรปเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้โมเดลธุรกิจคล้ายกับในสหรัฐฯ เพื่อรุกขยายตลาด ขณะที่ตลาดหลักในต่างประเทศอย่างศจีน ภายหลังเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ยอดขายสินค้าฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าคำสั่งซื้อจากจีนในครึ่งหลังปีนี้จะเข้ามามากกว่า 100 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 จะเป็นไฮซีซั่นของตลาดในจีน

ออกสินค้าใหม่

นายอิทธิพัทธ์  กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังจะเปิดตัวสินค้าใหม่เน้นที่ผลิตภัณฑ์สาหร่าย เเละสาหร่ายโรยข้าว ซึ่งทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้มีการปรับสูตร และทำรสชาติที่หลากหลาย คาดว่าจะวางจำหน่ายอย่างน้อย 1-2 SKUs ในครึ่งปีหลัง ส่วนผลิตภัณฑ์นมพลาสเจอร์ไรส์ ภายใต้แบรนด์จัสท์ดริ้งค์ ได้เปิดตัวรสชาติใหม่ คือ ชานมเอิร์ลเกรย์ คาดว่าจะทยอยออกรสชาติใหม่อีก 1-2 SKUs ในเร็วๆนี้

ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้ทำการการตลาดร่วมกับ BT21 ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนของ LINE FRIENDS ที่ออกแบบโดยวงไอดอลเกาหลีชื่อดัง “BTS” โดยหลังจากวางจำหน่ายได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวออกแคมเปญ NFT: THE PHENOMENON ร่วมกับ บริษัทบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เพื่อออกแบบ Non-Fungible Token (NFT) คอลเลคชั่นพิเศษกว่า 600,000 ชิ้น ผ่านซองขนมเถ้าแก่น้อย ซึ่งนับเป็นการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ให้กับผู้บริโภค

บริหารต้นทุนได้ดี

สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 42% จากปีก่อน 37% ปรับตัวดีขึ้นหากเทียบกับปีที่ผ่านมา   ขณะที่ต้นทุวัตถุดิบปรับตัวขึ้นตามเงินเฟ้อนั้น ในส่วนของบริษัทยังสามารถบริหารจัดการได้ เนื่องจาก บริษัทจะเข้าทำสัญญาซื้อสาหร่ายจากผู้ผลิต และจัดจำหน่ายเป็นรายปี ซึ่งในสัญญาจะกำหนดทั้ง ราคา คุณภาพของสาหร่าย และปริมาณรวมทั้งปี ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนโดยรวมได้สมดุล ส่งผลให้มีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในในช่วงที่ผ่านมา

ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีปัจจัยบวกจากการรวมโรงงานที่ลาดหลุมแก้ว(นพวงศ์)และโรจนะ(อยุธยา) ซึ่งทำให้มีการใช้กำลังการผลิตอย่างเต็มที่ และส่งผลบวกต่อต้นทุนต่อหน่วยของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น