#NRF #ทันหุ้น - NRF ฉายภาพอนาคตคาร์บอนมาแรง แย้มอยู่ระหว่างสร้างโรงงานกักเก็บคาร์บอนในไทย-สหรัฐ จากภาคการเกษตรแล้วเสร็จปลายปี 2568 ต่อยอดธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน หวังใน 5 ปี มีการจัดเก็บภาษีคาร์บอน ส่วนธุรกิจคาดครึ่งปีหลังเติบโต Plant-Basedถึงจุดคุ้มทุน อาหารสัตว์เลี้ยงโตแกร่งมาร์จิ้นสูง
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า บริษัทมีวิสัยทัศน์ต่อสู้โลกร้อนด้วยอาหาร พร้อมก้าวไปสู่บริษัท Global Clean Food Tech Company หรือการขับเคลื่อนบริษัทไปสู่เทคโนโลยีอาหารพลังงานสะอาด มุ่งเน้นการลดการปล่อยคาร์บอน ทั้งทางด้านเทคโนโลยี การพัฒนาโครงการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทำให้ปัจจุบันบริษัทเดินหน้าในหลายๆ เรื่อง อาทิ การก่อสร้างโรงงานที่ใช้สำหรับการกักเก็บคาร์บอน จากภาคการเกษตร โดยจะดำเนินการทั้งในไทยและในสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายปี 2568โรงงานดังกล่าวจะสามารถขายคาร์บอนเครดิตได้ด้วย มีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่บริษัท 25-40% และสู่การเป็นอุตสาหกรรมอาหารที่ยั่งยืนรวมทั้งการพัฒนา Decarbonization เพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050
@ลุยคาร์บอน
“เชื่อว่าการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนบริษัทไปสู่เทคโนโลยีอาหารพลังงานสะอาด มุ่งเน้นการลดการปล่อยคาร์บอน จะทำให้บริษัทมีการเติบโตได้อย่างยั่งยืน มาซัพพอร์ตธุรกิจของบริษัท บริษัทก็มีการดำเนินการในหลายๆ เรื่อง อย่างเรื่องการก่อสร้างโรงงานที่ใช้สำหรับการกักเก็บคาร์บอน จากภาคการเกษตร ทำให้สามารถขายคาร์บอนเครดิตได้ด้วย จึงเป็นโอกาสในการเติบโต และภาครัฐ ในหลายๆ ประเทศก็ส่งเสริมเรื่องดังกล่าว อย่างในประเทศไทยก็เชื่อว่าจะเห็นเรื่องของภาษีคาร์บอนภายใน 5 ปี ซึ่งเป็นส่วนผลักดันเรื่องสิ่งแวดลอมและสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้” นายแดน กล่าว
@กำไรเพิ่มแรง
ทั้งนี้ NRF แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ไตรมาส 2/2565 มีกำไร 39.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 269.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 10.69 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายที่สูงขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น และมีการรับรู้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสินทรัพย์ทางการเงินที่กำหนดให้วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน ขณะที่รายได้จากการขายในไตรมาส 2/2565 ที่ 546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจ e-Commerce มีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนแต่หากเทียบกับไตรมาส 1/2565 จะลดลง 9.6% โดยมีปัจจัยหลักจากการรปับตัวลดลงของรายได้จากากรขายในผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารท้องถิ่นและธุรกิจ e-Commerce
@ครึ่งปีหลังโตต่อ
โดยแนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุนจากทุกธุรกิจทั้ง 1. กลุ่มธุรกิจโปรตีนจากพืช Plant-Based Food 2.กลุ่มธุรกิจอาหารท้องถิ่น Ethnic Food 3. กลุ่ม Functional Productอย่างธุรกิจ Plant-Based Foodนั้นคาดว่าบริษัทย่อยที่บริษัทเข้าไปลงทุนจะกลับมาถึงจุดคุ้มทุนในช่วงไตรมาส 3/2565 นี้ อีกทั้งในส่วนของ e-Commerceก็มีการปรับการบันทึกบัญชีใหม่ ทำให้แนวโน้มจะเห็นตัวเลขการทำกำไรในระดับที่จากธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก พร้อมกันนี้ที่ผ่านมาได้มีขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง มีแนวโน้มการเติบโตบริษัทวางแผนที่จะเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำ ทั้งนี้คาดว่าปี 2565 ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทราว 200-250 ล้านบาท และคาดว่าปี 2566 จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
อีกทั้งในส่วนของ GTH ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ NRF โดยเข้าถือหุ้น 75% เดินหน้าในเรื่องของกัญชา ผลักดัน S-Curve ใหม่ช่วยสนับสนุนรายได้ในครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับความต้องการที่ล้นมือของกลุ่มลูกค้าของสินค้ากัญชง-กัญชา ภายใต้ GTH ในขณะนี้ เพื่อต่อยอดและพัฒนาทางการแพทย์ภายใต้กฎหมาย ชูความเป็นผู้นำทางการตลาดในอุตสาหกรรมกัญชง-กัญชาในประเทศไทย
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม