09 พฤษภาคม 2022 เวลา 06:00 น.
#CWT #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันมากขึ้น โดยอ่อนตัวลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1,630 จุด ซึ่งถ้าพิจารณาจากแนวโน้มถือว่ายังมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลงต่อ อย่างไรก็ตาม ผมคาดว่าช่วงครึ่งเดือนหลังจะดีกว่าครึ่งเดือนแรก เพราะตลาดหุ้นทั่วโลกผ่านรอบการพักฐานมาแล้วระดับหนึ่ง และแรงกดดันต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน, สถานการณ์ COVID-19 ในจีน, รวมถึงการเร่งตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ ควรจะเริ่มคลายตัวลง ขณะที่ ถ้าพิจารณาในแง่ของ Valuation การอ่อนตัวลงของ SET Index ไปถึง 1,580-1,600 จุด จะทำให้ Earning Yield Gap หรือส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น เทียบกับอัตราผลตอบแทนของพันธบัตร จะกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยที่ราว 3.00% อีกครั้ง ซึ่งเป็นจุดที่ช่วยจำกัด Downside ให้กับ SET Index ได้ในระยะสั้น
เพราะฉะนั้น อยากให้นักลงทุนอดใจรอการปรับตัวของตลาดที่มีโอกาสเกิดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์นี้ แล้วค่อยทยอยซื้อลงทุนเพื่อลุ้นรีบาวน์เมื่อ SET Index ปรับฐานลงสู่แนวรับข้างต้น โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือ 1) ท่าทีของรัสเซียต่อยูเครนในวัน Victory Day 2) เงินเฟ้อเดือน เม.ย. 2565 ของสหรัฐฯและจีนที่จะประกาศวันพุธที่ 11 เม.ย. 2565
ส่วนหุ้นที่ผมนำมาเล่าในสัปดาห์นี้คือ CWT หรือ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ประกอบธุรกิจหลัก 3 กลุ่มธุรกิจคือ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์หนัง ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 4 ประเภท ได้แก่ 1.1ผลิตภัณฑ์หนังสัตว์ฟอก 1.2 ผลิตภัณฑ์ของเล่นสัตว์เลี้ยง 1.3 ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์หนัง 1.4ผลิตภัณฑ์เบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ เช่น Toyota Honda Nissan Isuzu Mazda Mitsubishi และ Chevrolet 2. กลุ่มพลังงาน โดยบริษัทได้ลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท ชัยวัฒนา กรีน จำกัด ในสัดส่วน 100% โดยมีเป้าหมายเพื่อประกอบธุรกิจลงทุน (ถือหุ้น) บริษัท ในกลุ่มพลังงานทดแทน 3.กลุ่มออกแบบและจัดจำหน่ายยานพาหนะ ซึ่งประกอบกิจการออกแบบและจัดจำหน่ายเรือ และรถโดยสารขนาด เล็กที่ผลิตด้วยอลูมิเนียม
ผมคาดว่ากำไรสุทธิ1Q65จะโตเด่นทั้ง QoQและ YoY เพราะเบาะหนังรถยนต์ฟื้น เบาะเฟอร์นิเจอร์โตดีต่อเนื่อง และยังรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ตามปกติ ส่วนแนวโน้มกำไร 2Q65 ยังโต YoY เพราะธุรกิจหลักผลิตเต็มกำลัง และ Sakun C (EV Bus) ส่งมอบรถได้มากขึ้น ขณะที่ กำไรสุทธิจะยิ่งโตสูง เพราะมีกำไรพิเศษจากขายโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์
ส่วนธุรกิจ EV Bus ผู้บริหารยังคงแผนในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยนอกจากจะรับรู้รายได้จากการขาย EV Bus ที่เริ่มส่งมอบให้ ARUN+ ของกลุ่ม PTT แล้วยังเปิดโอกาสในการจำหน่ายเบาะหนังให้ EV Bus ด้วยส่วนการขายหุ้น Sakun C (ถืออยู่ 50.01%) บางส่วน ผู้บริหารให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้เมื่อได้ราคาจูงใจ ปัจจุบัน Market cap. หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ EV Bus เช่น NEX และ BYD สูงราว 3.0 หมื่นลบ. และ 1.8 หมื่นลบ. ตามลำดับ (แต่ Market cap. ของ CWT อยู่ที่เพียง 2.5 พันลบ.)
ขณะที่ ธุรกิจด้าน Digital Asset ทั้งขุดเหรียญ และออก Token จะเห็นภาพบวกชัดเจนใน 2H65 ผมคาดกำไรทั้งปี 2565 ราว 200 ลบ. +16% YoY ราคาปัจจุบัน คิดเป็น PER 11.8เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังที่ 26.9 เท่าอย่างมีนัยสำคัญ ราคาเหมาะสมเบื้องต้นประเมินไว้ที่ 5.00 บาท
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามบทความของ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม