> SET > SCGP

06 พฤษภาคม 2022 เวลา 11:08 น.

SCGPปั้นมูลค่าแพ็กเกจจิ้ง รองรับดีมานด์-มาร์จิ้นสูง

#SCGP #ทันหุ้น – SCGP กำงบ 1.5 หมื่นล้านบาท ผนึกพันธมิตรทำ M&P เสริมศักยภาพทางธุรกิจ มั่นใจเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวหนุนยอดขายทั้งปี 1.4 แสนล้านบาทตามเป้า เผยสามารถปรับราคาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องต้นทุนได้กว่า 90%ควบคู่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง รองรับดีมานด์


นายวิกร พงศธร ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยแนวโน้มรายได้รวมปี 2565 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.4 แสนล้านบาท หนุนจากความต้องการสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์ปรับเพิ่มขึ้นทั้งในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเปิดพรมแดน – เปิดประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ภาคการผลิต-ภาคบริการฟื้นตัวจากการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงภูมิภาคตะวันตก ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ และการดำเนินมาตรการคว่ำบาตร (Sanctions) รัสเซียจากชาติพันธมิตรตะวันตก ทำให้ประเทศแถบยุโรปหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพและสุขอนามัยมากขึ้น


อย่างไรก็ตามสำหรับราคาพลังงานและวัตถุดิบในช่วงที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง บริษัทจึงยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพทั้ง 1.ล็อกราคาถ่านหินล่วงหน้าไว้ประมาณ 30%2.บริหารจัดการต้นทุนค่าขนส่ง ระหว่างการขนส่งสินค้าทางเรือ กับการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก 3,บริหารจัดการวัตถุดิบให้เพียงพอต่อการผลิตสินค้าทุกประเภท และ4.รักษาสภาพคล่อง – กระแสเงินสดให้เพียงพอ


ปั๊มมูลค่าแพ็กเกจจิ้ง


ขณะเดียวกันบริษัทสามารถปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เร่งตัวขึ้นได้ประมาณ 90%บริษัทคาดการณ์ว่าราคา “เศษกระดาษ” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทจะเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เป็นต้นไป หนุนจากการเดินทางข้ามทวีปที่สะดวกมากขึ้น  ประกอบกับบริษัทยังคงพัฒนาบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพิ่มกำลังการผลิตกลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่มีศักยภาพการทำกำไรขั้นต้น (Margin) เพื่อหลีกเลี่ยงตลาดที่ยังคงมีการแข่งขันสูง


ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าชั้นนำจากต่างประเทศ ในสัดส่วน 40%, ลูกค้าแบรนด์ดังในประเทศ 40%, และลูกค้าที่เป็นกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลาง – ขนาดเล็กอีกกว่า 20% อีกทั้งการส่งต่อลูกค้าจากพันธมิตรทางธุรกิจ (Merger and Partnership : M&P) ทั้ง 3 รายประกอบด้วย Duy Tan,  Intan Group และ Deltalab โดยมีสินค้าที่หลากหลายกว่า 1.4 แสนประเภทสินค้า (Stock Keeping Unit : SKU) จะเป็นปัจจัยหนุนศักยภาพการขยายฐานการตลาดในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ


M&P หนุนฐานโต


บริษัทตั้งงบประมาณการลงทุนปี 2565 ไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 1.งบสำหรับเข้าซื้อกิจการและเป็นพันธมิตร (Merger and Partnership: M&P) ที่  1.5 หมื่นล้านบาท เน้นลงทุนในธุรกิจต้นน้ำในต่างประเทศที่ SCGP มีฐานการผลิตหรือดำเนินการอยู่แล้วทั้งในไทย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ ฯลฯ เพื่อสร้าง Synergyที่แข็งแกร่งให้กับองค์กร และ 2.งบสำหรับซ่อมบำรุง 5 พันล้านบาท


ทั้งนี้ งบลงทุนข้างต้นอยู่ภายใต้แผน 5 ปี (ปี 2565-2569) ที่จะใช้งบลงทุนรวม 100,000 ล้านบาท โดยจะพิจารณาลงทุนอย่างระมัดระวังและรอบคอบ เน้นธุรกิจในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำ (Downstream) ที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวและได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค พร้อมกับการยึดมั่นในการดำเนินงานตามแผนบริหารความต่อเนื่องของการดำเนินงาน (Business Continuity Management) เพื่อลดความเสี่ยงจากทั้งภายในและภายนอกองค์กร


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X