> SET > ERW

20 เมษายน 2022 เวลา 08:15 น.

ERWต่างชาติไหลเข้าไทย ยอดพัก‘ฮ็อป อินน์’พุ่ง70%

#ERW #ทันหุ้น – ERW ชี้นักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวเด่น หนุนอัตราการเข้าพักแบรนด์ฮ็อป อินน์ อยู่ที่ 70% คาดทั้งปีไม่ต่ำกว่านี้ระดับนี้ มองท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้นดันรายได้ปีนี้เติบโตดี เดินหน้าแผนลงทุนขยายโรงแรมในประเทศและในฟิลิปปินส์ ด้วยงบลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท ฟากโบรกมองถึงรอบหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ชี้มูลค่าหุ้นอยู่ในระดับต่ำ


นางสาววรมน  อิงคตานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยมีการฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งตลาดในประเทศ Domesticซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัทมีการท่องเที่ยวที่คึกคักมากในประเทศ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

อาทิ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ อินเดีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ด้วย หลังจากในหลายๆ ประเทศได้มีการผ่อนคลายมาตรการการเดินทาง รวมถึงประเทศไทยมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวให้สามารถตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น


*ขยายโรงแรมใหม่


โดยคาดว่าอัตราการเข้าพัก (OCC) ในเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยโรงแรมแบรนด์ Hop Inn อยู่ที่ 70% คาดว่าทั้งปีจะไม่ต่ำกว่าระดับดังกล่าว ส่วนโรงแรมในกลุ่ม รักษาระดับไม่ต่ำกว่า 40% โดยมองว่าผลประกอบการของบริษัทน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วในปีที่ผ่านมา และจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง แต่ปีนี้ผลประกอบการยังไม่สามารถกลับไปเทียบเท่าปีก่อนหน้าที่เกิดโควิด ทั้งนี้คาดว่าสถานการณ์จะกลับมาเทียบเท่าปีก่อนโควิดในปีช่วงปี 2567


อย่างไรก็ดี บริษัทยังเดินหน้าในการขยายโรงแรมใหม่ต่อเนื่อง เน้นโรงแรมประเภท Hop Inn ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศจะขยายเพิ่มอีก 7 แห่ง และในฟิลิปปินส์ อีก 2 แห่ง ด้วยงบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันมีโรงแรมแบรนด์ Hop Inn ในไทย กว่า 40 แห่ง ในฟิลิปปินส์ 6 แห่ง และโรงแรมในกลุ่มอื่นอีกกว่า 10 แห่ง 


*ERW มูลค่าหุ้นต่ำ


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวภายใต้บทวิเคราะห์ที่ฝ่ายวิจัยรายงานขาดทุนอย่างหนักที่ 1.9 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 และคาดขาดทุนลดลงในปี 2565 ที่ 1 หมื่นล้านบาท จากนั้นพลิกกลับเป็นกำไรที่ 1.23 หมื่นล้านบาท ในปี 2566 (คิดเป็น 46% ของกำไรปี 2562) และ 3.29 หมื่นล้านบาท ในปี 2567 (คิดเป็น 123% ของปี 2562)


โดยคิดเป็นค่าเฉลยี่ PER ปี 2567 (ฟื้นตัวเต็มที่) ของกลุ่มคือ 32 เท่า เทียบกับ 35-41 เท่า ในช่วงปี 2560-2562 ใช้เกณฑ์ 2 ข้อในการเลือกหุ้น ได้แก่ มูลค่าหุ้นและการเติบโตของกำไร ซึ่ง AOT ทำคะแนนสูงสุด โดยซื้อขายที่ PER ปี 2567 ที่ 32 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 20 ปี อยู่เพียง 0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน มาจากการฟื้นตัวของเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารที่จะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่เดือนเมษายน 2565


ขณะที่ ERW เป็นหุ้นอีกตัวที่ราคายังอยู่ในระดับถูก โดยประเมินราคาเป้าหมาย AOT, CENTEL และ ERW โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 77, 47 และ 4.50 บาท ตามลำดับ อย่างไรก็ตามมองว่าภาคการท่องเที่ยวผ่านจุดต่ำสุดในปี 2564 และอยู่ในระยะการฟื้นตัว ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวมากกว่าตลาด มูลค่าหุ้นอยู่ในระดับที่ถูก


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X