> เป้าลงทุน หุ้นคาร์บอนต่ำ >

24 มกราคม 2022 เวลา 06:30 น.

WFX ยางช่วยยืดราคาหุ้น

SET INDEX สัปดาห์นี้ ผมคาดการณ์ว่าจะเคลื่อนไหวออกด้านข้างในกรอบ 1,640-1,670จุด แนวต้าน 1,670-1,680 จุดยังผ่านได้ยาก เพราะบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงถูกกดดันจากคาดการณ์การลดสภาพคล่องของเฟดและ ECB แต่ Downside ก็จำกัด เพราะความกังวลดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ และสถานการณ์ COVID-19 ของทั้งโลกกำลังผ่านจุด Peak จากการฉีดวัคซีน Booster ที่ช่วยชะลอการเร่งตัวของผู้ติดเชื้อได้


Highlight สัปดาห์นี้อยู่ที่ (1) การเปิดเผยผลประกอบการ 4Q64 (2) การประชุม FOMC ของเฟดวันที่ 25-26 ม.ค. 2565 (3) การเปิดเผยดัชนีเงินเฟ้อ PCE ที่เฟดใช้พิจารณานโยบายการเงิน โดยสำหรับรอบเดือน ธ.ค. 2564 ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 0.4% MoM และ 5.9% YoY ถ้าไม่ได้ไปจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ น่าจะหนุนให้หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มเทคโนโลยีในบ้านเรา ฟื้นตัวกลับขึ้นมาให้นักลงทุนหายใจหายคอได้บ้าง


สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วง Earning Season จึงแนะนำให้เก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 4Q64 จะออกมาสวยทั้ง QoQและ YoY ซึ่งภาพรวมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะเห็นการเติบโตแบบ QoQจากการคลาย Lockdown แต่การเติบโต YoY ยังเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะบางบริษัททำฐานไว้สูง ทำให้อาจเห็นการชะลอตัวลง YoY เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้น หุ้นที่ผลประกอบการจะเซอร์ไพร์สตลาดต้องโตทั้ง QoQและ YoY เท่านั้น


หุ้นที่ผมนำมาเล่าให้ฟังในสัปดาห์นี้ คือ WFX นักวิเคราะห์คาดกำไรปี 2564 ที่ 260 ลบ. (+350%YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่ เฉพาะ 4Q64 คาดทำได้ราว 100 ลบ.+/- จากการปรับราคาขายขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าให้ End user มากขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวในระดับสูงที่ระดับ30%ต่อเนื่องขณะที่ ความต้องการยังทรงตัวในระดับสูง จาก COVID-19 ที่ทำให้ความต้องการยางยืดที่ใช้ในหมวกคลุมผมทางการแพทย์ ชุด PPE และสายคล้องหน้ากากอนามัยเร่งตัวขึ้น รวมถึง ความต้องการเสื้อผ้านและสินค้าแฟชั่นที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังปลายประเทศคลายล็อกดาวน์


นอกจากนี้  ในปีหน้าช่วง 2Q65 จะมีการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 6,200 ตัน/ปี จากปัจจุบันที่ 41,000 ตัน/ปี และเฟส 2 อีก 6,200 ตัน/ปีในช่วง 2H65 อีกทั้ง บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 61,000 ตัน/ปี ภายในปี 2566 ทำให้กำไรจะเติบโตสูงและทำระดับสูงสุดใหม่ได้ถึงปี 2567


ส่วนในเชิงValuation ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER2565 เพียง 13.0 เท่า (บนสมติฐานกำไรเติบโตแบบ Conservative ที่ 15% เป็น 300 ลบ. ในปี 2565) เทียบกับกลุ่มสินค้าปลายน้ำที่ซื้อขายราว 15 – 20 เท่า แต่เป็นไปได้ที่กำไรจะเร่งตัวขึ้นไปแตะระดับ 350-400 ล้านบาท เพราะกำไรรายไตรมาสในปัจจุบันก็สูงใกล้ระดับ 100 ลบ.อยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ PER ลดลงเหลือเพียง 9.80-11.2 เท่า


สำหรับการวิเคราะห์ภาพทางทางเทคนิค ภาพรายนาทีมีการยกฐานราคาขึ้นต่อเนื่อง มีแนวรับที่ 8.00-8.30 บาท และแนวต้านที่ 10.00-10.50 บาท


ย้อนกลับมาที่ภาพใหญ่สักเล็กน้อย ผมคิดว่าตลาดกำลังเปลี่ยนโหมดจากการใช้ Growth Stock เป็นคันเร่งในการสร้างผลตอบแทน มาเป็นการใช้ Value Stock เพื่อจำกัด Downside ให้กับพอร์ตการลงทุน เพราะฉะนั้น หุ้น Value Stock ที่ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัว จะทยอยได้รับความน่าสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผมถือเป็น Theme หลักของการลงทุนในปีนี้ บทความฉบับหน้า ผมจะพยายามสรรหาหุ้นเหล่านี้มาให้นักลงทุนไปวิเคราะห์เพิ่มเติมอีกนะครับ หวังว่าบทความฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับนักลงทุน ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลงทุนยิ่งๆขึ้นไปครับ



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X