ทันหุ้น - SINGER มองกรณี สคบ. ทบทวนรายละเอียด กำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ 15% ต่อปีไม่กระทบ ชี้ธุรกิจโอนเล่ม คิดเป็นเพียง 15% หรือมีมูลค่าต่ำ 10% ของพอร์ตรวม วางเป้าปี 65 กำไรเติบโต 50% เป็นอย่างน้อย ภาพรวมธุรกิจปีนี้ยังเติบโตดีตามเป้า จับตาลุ้นกลางไตรมาส 4/64 เห็นความชัดเจนแผนธุรกิจร่วมกับกลุ่ม BTS

นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า จากประเด็นที่ทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตรียมทำประชาพิจารณ์ ในวันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 12.00-16.30 น. โดยมีสาระสำคัญของร่างประกาศ มีการแก้ไขรายละเอียดราว 15 ข้อ หลักๆ อาทิ กำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ 15% ต่อปี, ผู้เช่าซื้อใช้สิทธิ์บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ด้วยการส่งมอบรถยนต์ โดยห้ามเรียกเก็บหนี้ส่วนขาด (คืนรถจบหนี้ ห้ามเรียกหนี้ส่วนขาด)

กดดันโอนเล่มน้อย

หรือกรณีชำระค่าเช่าซื้อก่อนครบกำหนดสัญญาหรือ ปิดบัญชีค่าเช่าซื้อ จะต้องให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าซื้อไม่น้อยกว่า 80%ของดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ หรือผู้เช่าซื้อหรือผู้ค้ำประกันอาจโอนสิทธิ์ให้บุคคลภายนอกซื้อรถคืนได้นั้น คาดว่าไม่ได้กระทบต่อธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมองว่าโดยหลักจะเกิดกับธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ มากกว่าจำนำทะเบียน ยอมรับว่าอาจมีผลกับบริษัทมีธุรกิจโอนเล่มของบริษัทอยู่บ้างแต่ก็มองว่าน้อยมาก เนื่องจากธุรกิจโอนเล่มคิดเป็นสัดส่วน 15% หรือมีมูลค่าต่ำกว่า 10% ของพอร์ตเช่าซื้อรวม โดยส่วนใหญ่อยู่ภายใต้เกณฑ์ของแบงก์ชาติ และมียิลด์เฉลี่ยที่เพียง 15-16% ท่านั้น ทำให้มองว่าแทบจะไม่ได้กระทบต่อผลการดำเนินงานรวม

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2564มองว่าจะเติบโตได้ดีกว่าทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนจากพอร์ตที่ขยายตัว และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แม้จะมีปัจจัยลบจากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมากระทบต่อบริษัทและภาคธุรกิจในบางภูมิภาค แต่ด้วยธุรกิจของบริษัทปัจจุบันที่มีการกระจายพอร์ตการลงทุนมากกว่า 1 ช่องทาง ทั้งพอร์ตหลักเป็นพอร์ตสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) เเละพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase : HP) รวมถึงมีทีมขายกระจายทั่วประเทศ และมีร้านสาขา และแฟรนไชส์รวมกว่า 2,900 แห่ง ทำให้ยังคงมีการเติบโตที่ดีได้อยู่

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคาดว่าผลการดำเนินงานรวมในปี 2564จะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งทางด้านพอร์ตสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตที่ 10,000 ล้านบาท รวมถึงการเติบโตของรายได้ปีนี้ที่จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 25% จากปีที่ผ่านมา มีรายได้ที่ 3,658.43 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่  443.30 ล้านบาท

โดยในช่วง 6เดือนแรกของปีนี้บริษัทสามารถทำรายได้ที่ 2154.55 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 322.75 ล้านบาท เเละตั้งเป้าคุมหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) ให้ต่ำกว่า 4% จาก ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2564 มี NPL ที่ 4.1% ขณะที่ปี 2565บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของกำไรสุทธิไว้ที่ไม่น้อยกว่า 50%

ขับเคลื่อนกลยุทธ์ร่วมกับ BTS

ในส่วนความคืบหน้าการขายหุ้นเพิ่มทุน และการการขับเคลื่อนกลยุทธ์ร่วมกับกลุ่ม BTS เช่น การแชร์สินค้าและช่องทางจัดจำหน่ายกับ iFansLink รวมถึงการต่อยอดธุรกิจประกัน และสินเชื่อร่วมกับฐานข้อมูลลูกค้าแรบบิท, การใช้เครือข่ายโฆษณา VGI ส่งเสริมด้านการตลาด ปัจจุบันยังเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีการพูดคุยกับบริษัทที่อยู่ในกลุ่มของ BTS แล้ว เบื้องต้นคาดว่าอาจจะได้เห็นการร่วมมือบางอย่างกับทาง Kerry Express ก่อน โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนช่วงกลางไตรมาสที่ 4/2564เป็นต้นไป เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตในปี 2565 ได้อย่างเต็มปี