ทันหุ้น - SA คลายล็อกดาวน์หนุน Q4/2564 ฟอร์มแจ่ม พร้อมจ่อปั้นโครงการแนวราบใหม่ 3-4 พันล้านบาท เติม แบ็กล็อกเพิ่มจากเดิมราว 5พันล้านบาท กินยาวปี 2566แถมซุ่มร่วมมือพาร์ตเนอร์ออกเหรียญดิจิทัล คาดชัดเจนไม่เกินปีหน้า
นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากประเด็นที่ภาครัฐมีการประกาศคลายล็อกดาวน์และเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมานั้นบริษัทมองถือเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ เพราะช่วยสนับสนุนลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการในทำเลต่างๆ ของธุรกิจเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังน่าจะกลายเป็นแรงสนับสนุนผลงานในไตรมาส 4/2564ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 3/2564 อีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอโอน (Backlog) อยู่ที่ 5 พันล้านบาท จากโครงการในทำเลต่างๆ อาทิ คอนโดมิเนียม ไซมิส พระราม 9, ไซมิส คิน รามอินทรา ฯลฯ คาดน่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องจนถึงปี 2566รวมทั้งบริษัทยังมีแนวทางพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อเสริมรายรับเพิ่มเติมด้วย
ลุยปั้นของใหม่เพิ่ม
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการปี 2564ประมาณการยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องได้จากปี 2563ที่มีรายได้ราว 3.6 พันล้านบาท เพราะธุรกิจมียอดขายที่รอโอนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับยังมีการเปิดโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือปีนี้เพิ่มเติม ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ
สำหรับในช่วงที่เหลือปีนี้ทาง SA มีแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่อีก 1 โครงการ ในโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีมูลค่าโครงการราว 3-4 พันล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายและรายรับในอนาคต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัด ซื้อที่ดิน คาดได้ความชัดเจนเร็วๆ นี้
เล็งปั้นเหรียญดิจิทัล
นายขจรศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า ไม่เพียงเท่านั้นปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์ตเนอร์เพื่อร่วมมือกันออกเหรียญดิจิทัล ซึ่งมีสินทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์อ้างอิง โดยคาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ไม่เกินต้นปี 2565
อนึ่ง งบการเงินสิ้นไตรมาส 2/2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.64) มีรายได้รวม 620.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 401.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 183.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 218.7 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 27.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9 ล้านบาท หรือ 659.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาท และมีส่วนของกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 27.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.1 ล้านบาท หรือ 204.8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 25.9 ล้านบาท ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 38.6%
โดยผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/2564 บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จากโครงการ รามาดา เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 87, โครงการ รามาดา พลาซา เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 48, โครงการ วินแดม การ์เด้น เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 42 และโครงการ บลอสซั่ม คอนโด แอท แฟชั่น บียอนน์ รัชดา-รามอินทรา เป็นหลัก รวมเป็นรายได้จากการขายและการโอนกรรมสิทธิ์ของบริษัททั้งสิ้น 540.1 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีการรับรู้รายได้จากการให้บริการ อาทิ ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) การบริหารงานนิติบุคคล และรายได้จากการประกอบธุรกิจโรงแรม Q-Box Hotel Bangkok Blossom รวมเป็นรายได้จากงานการให้บริการทั้งสิ้น 23.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.8% ของรายได้รวม ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 14.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 149.1%
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม