14 มิถุนายน 2021 เวลา 11:35 น.
ทันหุ้น - นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่าหากวิเคราะห์ราคาบิทคอยน์ที่ร่วงลงจากจุดสูงสุด 65,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และราคาล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่แถว ๆ ระดับ 31,000-33,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ มองว่าระดับราคาดังกล่าวน่าสนใจซื้อลงทุนในระยะยาว เพราะปัจจัยพื้นฐานของบิทคอยน์ไม่ได้เปลี่ยนไป และมีแนวโน้มที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต จากกระแสข่าวดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่นกรณีประเทศเอลซัลวาดอร์ (El Salvador) ประกาศที่จะศึกษาเรื่องของการนำบิทคอยน์มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ ถือเป็นปัจจัยบวกใหม่ ซึ่งหากอนาคตมีการร่างกฎหมายดังกล่าวจริง บิทคอยน์จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เกิดขึ้นคือธนาคารกลางแม้จะเป็นเพียงประเทศเล็กๆ แต่ก็ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของบิทคอยน์ในระยะยาวได้
เช่นเดียวกันกับกรณีที่ Ray Dalio ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Bridgewaters ให้ข้อมูลการถือครองบิทคอยน์แม้จะไม่ได้ระบุว่าถือในนามส่วนตัวหรือกองทุนรวม และไม่ได้ระบุมูลค่าแต่ถือว่าได้สร้างผลกระทบทางจิตวิทยาเชิงบวกค่อนข้างมาก เพราะ Ray Dalio เป็นนักลงทุนที่มีความน่าเชื่อถือสูงและได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก
“ข่าวเรื่องหน่วยงานทางด้านการเงินของประเทศจีนประกาศแบนคริปโต และกรณีทางการสหรัฐฯจะแบนคริปโตหรือเก็บภาษี ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเก่าที่เล่าใหม่ และการที่ Elon Musk ออกมาทวิตเนื้อหาในเชิงลบ มีผลในเชิงจิตวิทยาเท่านั้น แต่ไม่ได้กระทบต่อพื้นฐาน เพราะTesla ถือครองบิทคอยน์เพียงแค่ไม่ถึง 0.1% ของซัพพลายทั้งหมดด้วยซ้ำนักลงทุนระยะยาวต้องมองให้ออกในเชิงของข่าวว่าอะไรที่เข้ามากระทบกับปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง”
นายณพวีร์ กล่าวว่า สถาบันการเงินต่างๆยังคงเดินหน้าเปิดให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีได้ล่าสุดคือ สถาบันการเงินขนาดใหญ่ อย่างธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ และการเข้าซื้อบิทคอยน์อย่างต่อเนื่องของ MicroStrategy ตลอดจน Ark Invest ที่ตัดสินใจเข้าซื้อลงทุนบิทคอยน์โดยตรง ถือเป็นประเด็นที่สร้างผลกระทบในเชิงพื้นฐานจริงๆของบิทคอยน์
“นอกจากปัจจัยบวกเชิงดีมานด์แล้วยังพบว่าในฝั่งซัพพลายเองก็มีความน่าสนใจตรงที่ซัพพลายของบิทคอยน์ที่อยู่ใน Exchange หรือซื้อขายในตลาดรองมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลของ Glassnodeบริษัทวิจัยทางด้านบล็อกเชน แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่ราคาบิทคอยน์ ลงไปทำจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมปีที่แล้วจำนวนบิทคอยน์ที่ถูกดึงออกมามีปริมาณที่ค่อนข้างสูงอย่างมีนัยสำคัญ บ่งบอกว่ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่น่าจะเป็นผู้ดูดซัพพลายเหล่านี้ออกมาเก็บไว้นอก Exchange เพื่อลงทุนระยะยาว อีกทั้งมีข้อมูลว่าการสร้าง Stable Coins ใหม่เข้ามาในระบบยังมีอย่างต่อเนื่องแม้ว่าราคาบิทคอยน์จะปรับฐานก็ตามสะท้อนว่ายังมีความต้องการซื้อบิทคอยน์อยู่มากในตลาด”
ทางด้านเทคนิคให้นักลงทุนติดตามราคาบิทคอยน์ หากไม่ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมอาจบ่งบอกว่าราคาบิทคอยน์จะไม่เกิดการปรับตัวลงอย่างรุนแรงอีกในระยะสั้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสซื้อสะสมเพื่อลงทุนระยะยาวสำหรับนักลงทุนที่ยังมองปัจจัยพื้นฐานของบิทคอยน์ไม่ได้เปลี่ยนไป และหากราคาไม่ลงไปต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นจุดสูงสุดเดิมก่อนหน้านี้ มีโอกาสที่ราคาบิทคอยน์จะปรับตัวขึ้นและสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือระดับ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ภายใน1 ปีข้างหน้านี้
ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนให้ศึกษาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น ธุรกิจการเงินไร้ศูนย์กลาง (DeFi) ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีศักยภาพสูงบนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีการเขียน Smart Contract ชัดเจน เป็นกลไกของการเงินแบบไร้ตัวกลางที่สร้างผลตอบแทนได้จริงโดยที่ต้นทุนการทำงานไม่สูงเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินในแบบปัจจุบัน แต่ต้องยอมรับว่าDeFiเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ยังต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาระบบที่ดียิ่งขึ้นกว่านี้ รวมไปถึงการสร้างความปลอดภัยในการลงทุนซึ่งหากปัญหาความเสี่ยงในด้านต่างๆของ DeFi ได้รับการแก้ไข ในที่สุดการลงทุนใน DeFi ก็จะได้รับความนิยมมากขึ้น
“แม้การลงทุนใน DeFi จะมีผลตอบแทนสูง ในแง่ของความเสี่ยงก็สูงมากเช่นกัน ดังนั้นนักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้เข้าใจ โดยไม่ไปลงทุนกับ DeFi ที่ไม่น่าเชื่อถือเพราะอาจเข้าข่ายเป็น Scam และต้องไม่นำเงินทั้งหมดที่มีเข้ามาลงทุนอาจจะลองแบ่งเงินเพียงส่วนน้อยมาเริ่มลงทุนเพื่อศึกษาให้เข้าใจกลไกการทำงานของสินค้าประเภท DeFi มากขึ้นซึ่งอาจจะเป็นโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคต ”นายณพวีร์ กล่าวปิดท้าย
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม