> เคล็ดลับลงทุน >

26 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 11:00 น.

อย่ากลัวที่จะซื้อ

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ในช่วงที่ผ่านมา SET ได้แกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1460-1530 จุด ใกล้เคียงกับที่เราได้คาดการณ์ไว้ ด้วยมุมมองตลาดที่ยังคงอิ่มตัวในเชิงพื้นฐาน Valuation เริ่มตึงและขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ซึ่งกดดันให้ดัชนีไม่สามารถไปไหนได้ไกล รวมถึงช่วงสั้นการขาดแรงหนุนใหม่ๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นบลูชิพ ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยังคงเป็นไปในลักษณะเลือกเล่นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และเป็นการเล่นเก็งกำไรช่วงสั้นเท่านั้น


จากปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว กดดันให้ดัชนียังคงผันผวนต่อไปและยากที่จะทำนิวไฮ โดยมีกรอบบนจำกัดที่บริเวณ 1530-1540 และเชิงเทคนิคมีโอกาสปรับตัวลง โดยผมมองแนวรับเป้าหมายของรอบนี้อยู่ที่ 1450 และ 1400 จุด ตามลำดับ เนื่องจากปัจจัยบวกเรื่องวัคซีนจะหนุนให้ SET มี Downside จำกัดบริเวณ 1400-1450 จุด จากความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว รวมถึง รอการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งจากการประเมินของ SCBS ที่คาดการณ์ปริมาณเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ แบ่งออกเป็น 3 กรณี ได้แก่


กรณี 1 (Worst case) วงเงิน 6 แสนล้านเหรียญ คาดว่าตลาดจะเกิดการปรับฐานประมาณ 5-7% ทำให้ด้าน กลยุทธ์ แนะนำเปลี่ยนมาสู่กลุ่มปันผลสูง และหุ้นเชิงรับอย่างโรงไฟฟ้า


กรณี 2 (Base case) วงเงิน 1.0-1.2 ล้านล้านเหรียญ คาดตลาดจะตอบสนองเชิงบวก ตามความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นหุ้นกลุ่มวัฏจักรจะโดดเด่น ซึ่งแนะนำกลุ่มพลังงาน และพวกกลุ่มอุปโภคบริโภค


กรณี 3 (Best case) วงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ คาดตลาดจะตอบสนองเชิงบวกปรับขึ้นในระดับ 2-3% แนะนำหุ้นในกลุ่มธนาคาร และพลังงาน


ด้านความเป็นไปได้คาดว่าเม็ดเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐจะอยู่ที่ประมาณ 1.0-1.9 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งคาดว่าหากมีการออกมาแล้ว ตลาดหุ้นจะตอบสนองเชิงบวก ทำให้ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำบริเวณ 1450 และ 1400 จุด เป็นจุดในการกลับเข้ามาซื้อหุ้นเข้าพอร์ตอีกครั้ง ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะ ได้แก่


1) Global Policy Play แนะนำ EA, PTTEP, PTT, TOP มองเป็นกลุ่มที่ยังพยุงตลาด แต่ Upside เริ่มจะจำกัด  เน้นย่อแล้วค่อยซื้อ  2) หุ้นเกาะกระแสกัญชา แนะนำ IP, DOD, RBF เน้นโรงสกัดซึ่งมองว่าปลอดภัยมากกว่า และใช้ กลยุทธ์เทรดดิ้ง แบบกำหนดจุด Stop Loss  3) หุ้นที่คาดว่ากำไร 4Q63 เติบโตดีและ Outlook 1Q64 สดใส ได้แก่ CPF, BAM, TNP, WICE  4) หุ้น Dark Horse ได้แก่ TWPC หลังมองปี 64 จะเป็นหุ้น Turnaround


ทั้งนี้ในกลุ่มหุ้น 4 ธีมหลักที่แนะนำ ผมเลือกมาเป็น 5 หุ้นที่อยากแนะนำ ดังต่อไปนี้


1) EA คาดกำไร 4Q63 จะเติบโตจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่มีปริมาณการจำหน่ายไฟดีขึ้น รวมถึงธุรกิจปาล์มยังได้อานิสงส์จากราคาขาย B100 ที่ปรับตัวดีขึ้น


2) PTTEP กำไร 1Q64 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ซึ่งจะชดเชยราคาก๊าซที่ลดลง แม้ปริมาณการขายจะลดลง QoQ และยังมีแรงหนุนจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นหลังซื้อสินทรัพย์ใหม่


3) BAM คาดกำไร 4Q63 จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากการเลื่อนรับรู้การชำระเงินจาก 2Q63 และ 3Q63 มาเป็น 4Q63 รวมถึงกระแสเงินสดจะดีขึ้นหลังกรมบังคับคดีกลับมาเปิดทำการ


4) CPF คาดว่ากําไร 4Q63 จะเติบโต YoY จากราคาหมูที่ดีขึ้นในเวียดนามและไทย และยังมีแรงหนุนจากการซื้อกิจการฟาร์มสุกรที่จีนใน 4Q63 ซึ่งช่วยหนุนต่อแนวโน้มกำไรในอนาคต


และ 5) TNP แนวโน้มกำไร 4Q63 จะเติบโตเด่นทั้ง YoY และ QoQ โดยได้ผลบวกโดยตรงจากลูกค้าที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งได้เงินเพิ่มเดือนละ 500 บาท (ต.ค.-ธ.ค.) และยังได้ประโยชน์จากมาตรการคนละครึ่ง...และพบกันใหม่ในคอลัมน์ฉบับหน้าครับ ด้วยรัก และหวังดี


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X