ทันหุ้น –  SUN โชว์ฝีมือยอดเยี่ยม ผลงานปี 2563 พลิกกำไร 560.6% แตะ 193 ล้านบาท ด้านผู้บริหารส่งสัญญาณธุรกิจปี 64 โตต่อ 10-15% เร่งเดินเครื่องอัพกำลังการผลิตสินค้าแช่แข็ง รองรับออร์เดอร์พุ่งกระฉูด พร้อมกดปุ่มผลิตโรงงานใหม่สินค้าพร้อมทาน พ.ค.นี้ คาดดันยอดขายเพิ่มขึ้นปีละ 300 ล้านบาท จากเดิมปีละ 200 ล้านบาท

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2563 บริษัทพลิกมีกำไร 193 ล้านบาท จากปี 2562 ขาดทุน 41.9 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไร 234.9 ล้านบาท คิดเป็นพลิกกำไร 560.6% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16.2% ส่วนอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.3%

เพิ่มของแช่แข็ง

สำหรับยอดขายรวมปี 2563 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.63 พันล้านบาท จากปี 2562 ที่ 1.93 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 691 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 35.6% ขณะที่ทิศทางปี 2564 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตต่อเนื่อง 10-15% โดยการเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าแช่แข็งให้มากขึ้น เพื่อรองรับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์)ที่เติบโตสูงขึ้น และส่วนหนึ่งจะเติบโตจากการขายสินค้าในประเทศ หรือจากสินค้าพร้อมทาน หรือ Ready to eat ซึ่งบริษัทลงทุนก่อสร้างมินิแฟคทอรี่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไปแล้ว คาดจะแล้วเสร็จประมาณปลายเดือนเมษายน และคาดจะเริ่มเดินเครื่องได้ประมาณเดือนพฤษภาคมนี้

โดยกำลังการผลิตจากโรงงานใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 5-7 หมื่นชิ้นต่อวัน จากเดิมอยู่ที่ 3-4 หมื่นชิ้นต่อวัน สำหรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะช่วยผลักดันยอดขายกลุ่ม Ready to eat ให้เติบโตไปถึงระดับ 200-300 ล้านบาท จากเดิมมียอดขายเฉลี่ยต่อปีที่ 100-200 ล้านบาท ทั้งนี้ช่องทางการขายสินค้าประเภท Ready to eat คือร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า

ต่างแดนขายดี

ขณะที่การขายสินค้าต่างประเทศ บริษัทประเมินทิศทางยอดขายยังสามารถเติบโตได้ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มยุโรป และอังกฤษยังมีออเดอร์เพิ่มขึ้น สำหรับสัดส่วนยอดขายส่งออก หรือขายให้กับลูกค้าต่างประเทศอยู่ที่ 70-80% และสัดส่วนยอดขายในประเทศที่ 20-30%

นายองอาจ กล่าวต่อว่า ในปี 2564 บริษัทมีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่มเติม ทั้งการลงทุนในมินิแฟคทอรี่เฟสสอง และการขยายพื้นที่เพาะะปลูก เพื่อเพิ่มวัตถุดิบให้กับการผลิต ล่าสุดบริษัทใช้เงินลงทุนจำนวน 125 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดิน 1,007 ไร่ 1 งาน 19 ตารางวา ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งปี้ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากโรงงานประมาณ 15 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับศูนย์การเรียนรู้ KC Farm ถือเป็นการลงทุนต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความมั่นคงทางวัตถุดิบ และขยายโอกาสในการเติบโต ทั้งนี้ที่ดินผืนใหม่ จะช่วยซัพพอร์ตวัตถุดิบสำหรับผลิตสินค้าช่วงแรก ประมาณ 10-25% หรือเพิ่มขึ้นแตะ 1.8 แสนตันต่อปี จากปีก่อนที่ 1.5 แสนตันต่อปี

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) อนุมัติการขยายธุรกิจจากกลุ่มเกษตรกรรมไปสู่เกษตรกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงการขยายธุรกิจไปสู่สินค้าพร้อมปรุง หรือ Ready to cook และสินค้าที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ คาดจะเห็นความชัดเจนในปี 2564 นี้ อย่างไรก็ดีหากเป็นไปตามแผน ยอดขายจากกลุ่มสินค้าใหม่จะยังไม่รวมกับการเติบโตที่บริษัทตั้งเป้าไว้ในปี 2564 ที่ 10-15%