ด้วยกระแสการปลดล๊อก กัญชง ให้สามารถนำไปปลูก สกัด ผลิตและนำไปใช้ได้ในเชิงธุรกิจ ส่งผลให้ “กัญชง” กลายเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่คนไทยให้ความสนใจกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ประชาชนทั่วไป รวมไปถึงผู้ประกอบการต่างขานรับกันอย่างคึกคัก

รวมถึงได้สร้างแรงหนุนในหุ้นที่เกี่ยวข้อง และที่สนใจทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชง พากันปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น มองว่าเป็นโอกาสของธุรกิจในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ KWM ผู้นำด้านการผลิตเครื่องจักรแถวหน้าของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ผลิตเครื่องจักรที่สกัดสารจากกัญชงได้สำเร็จหนึ่งเดียวในประเทศ ที่ไม่ใช่การนำเครื่องสกัดมาจากต่างประเทศ

บริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM รับกระแสกัญชงแรง หลังจับมือ บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) (JSP Pharma) ในโครงการ “การสกัดสารสกัดจากพืชกัญชา และกัญชง” เพื่อนำไปสู่การผลิตยาและยาสมุนไพร ทั้งนี้คาดว่าเครื่องสกัดที่บริษัทผลิตขึ้นจะสามารถติดตั้งในโรงงานของ JSP Pharma ในจังหวัดลำพูนได้ภายในช่วงเดือนมิ.ย.64

ขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะเติบโต 15% จากปีก่อน เนื่องจากยอดขายสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และยังไม่นับรวมกับรายได้จากเครื่องจักรสกัดสารจากพืชกัญชาและกัญชงที่คาดว่าจะเริ่มรับรู้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะคาดว่าจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการปีนี้เติบโตได้แบบก้าวกระโดด

ปัจจุบันตลาดพืชกัญชา-กัญชง มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา รวมถึงประเทศไทยที่มีแนวโน้มเติบโตสูงเช่นเดียวกัน จะเห็นได้จากหลายภาคธุรกิจเริ่มหันมาศึกษา เตรียมขออนุญาต และผลิตผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆป้อนสู่ตลาด

ดังนั้นการที่ KWM แตกไลน์ธุรกิจเข้าสู่ตลาดกัญชง ถือว่าเป็นการต่อยอดการเติบโตก้าวกระโดดให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับ KWM ถือเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องจักรต่างๆ มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆออกสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่นักลงทุนทั่วไปจะหันมามองหุ้นตัวนี้ และเข้ามาเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก ด้วยเชื่อว่าพื้นฐานของธุรกิจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในอนาคตอย่างแน่นอน

จากกระแสที่กำลังถูกจับตามองสำหรับ กัญชง เมื่อหลายบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้นำ กัญชง เข้ามาเป็นไลน์ธุรกิจใหม่ของบริษัท จนทำให้ทั้งนักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างมองว่านี่คือโอกาสในการเติบโตของผลประกอบการในอนาคต ซึ่งนำไปสู่การขยับปรับขึ้นของราคาหุ้นหลายตัว ที่ออกมาแสดงตัวว่าจะไปทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชง ทั้งที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง และที่แสดงความชัดเจนที่จะเบนเข็มไปทำธุรกิจ กัญชง ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิมเลยก็มี

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าเรื่องธุรกิจกัญชงเพื่อการพาณิชย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาสู่ตลาด ยังคงต้องใช้เวลา ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการขออนุญาตที่มีเรื่องกฎเกณฑ์ที่ต้องศึกษา และระยะเวลาในการเพาะปลูก ตลอดจนการสกัดสารออกมาจนนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ออกมา คาดว่าอย่างเร็วสุดครึ่งปีหลังไปแล้วคงจะได้เห็น แม้ว่าจะมีหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีความพร้อมที่จะสามารถดำเนินการได้ในทันทีก็ตาม ดังนั้นภาวะการปรับขึ้นของราคาหุ้นในตอนนี้จึงเป็นเรื่องของความคาดหวังมากว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง โชคดีครับ