ทันหุ้น – ADB ชี้เม็ดพลาสติกที่ใช้ทางการแพทย์ จำพวกหลอดเข็มฉีดยา ถุงมือแพทย์ ดีมานด์ทะลัก หลังโควิด-19 ระบาด ส่งผลกำลังการผลิตปัจจุบันเต็มแม็ก เล็งเพิ่มเครื่องจักรอัพกำลังผลิต พร้อมเปิดกว้างรับพันธมิตรควบรวมกิจการเสริมฐานแกร่ง หวังต่อยอดธุรกิจต้นน้ำสู่ปลายน้ำ

นางสาวพรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB  เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือมีรายได้แตะ 1.5-1.6 พันล้านบาท ขณะเดียวกันจะโฟกัสการเติบโตมาร์จิ้นให้มากขึ้น โดยกลุ่มธุรกิจที่ทำมาร์จิ้นให้กับบริษัทได้สูง คือกลุ่มผลิตภัณฑ์กาว และผลิตภัณฑ์ยาแนว สำหรับผลิตภัณฑ์ยาแนวในปี 2564 ที่บริษัทจะให้ความสำคัญกับการเติบโตคือกลุ่มซิลิโคนยาแนว หรือ Silicone Sealant ซึ่งตั้งแต่บริษัทระดมทุนขายหุ้นไอพีโอ และเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ บริษัทได้ขยายไลน์ธุรกิจในกลุ่มซิลิโคนยาแนว และได้รับผลตอบแทนค่อนข้างดี ซึ่งส่งผลมาตั้งแต่ปี 2563 เล็กน้อย และจะส่งผลเต็มปีในปี 2564

โชว์ทิศทางธุรกิจ

สำหรับกลุ่มธุรกิจปัจจุบันประกอบไปด้วย 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ คาดในปี 2564 จะเติบโตประมาณ 5% โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกพีวีซี โดยมีลูกค้าหลักเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่การผลิตสายไฟ การไฟฟ้าภาครัฐ กลุ่มสาธารณูปโภค และผู้รับเหมา เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ปรับตัวดีขึ้น หลังจากผู้ประกอบการที่มียอดขายอันดับหนึ่งย้ายฐานผลิตไปต่างประเทศ

นอกจากนี้เม็ดพลาสติกเพื่อการแพทย์ หรือ Medical Grade PVC Compound ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องแพทย์ เช่น ถุงบรรจุเลือด ถุงมือแพทย์ หลอดเข็มฉีดยา มีอัตราการเติบโตที่ดี หลังจากโควิด-19 ระบาดไปทั่วประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้เม็ดพลาสติกเพื่อการแพทย์มีสูง ขณะที่ปัจจุบันกำลังการผลิตในกลุ่มดังกล่าวมีกำลังการผลิตเต็ม และบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการเพิ่มเครื่องจักร แต่ทั้งนี้บริษัทขอดูสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

2.กลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์ยาแนว โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวบริษัทเป็นทั้งผู้ผลิต(OEM) และจำหน่ายผ่านตัวแทน โดยสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายผ่านตัวแทนมากกว่า OEM หรืออยู่ที่ 70:30  ส่วนผลิตภัณฑ์ยาแนว บริษัทจะนำผลิตภัณฑ์ซิลิโคนยาแนว หรือ Silicone Sealantเน้นจำหน่ายในกลุ่มก่อสร้าง โดยให้เข้าถึงผู้รับเหมาให้มากที่สุด

รุกขยายฐานลูกค้า

ทั้งนี้ปี 2564 บริษัทคาดกลุ่มซิลิโคนยาแนว หรือ Silicone Sealant จะเติบโตได้ถึง 10-20% จากการขยายฐานลูกค้าในประเทศ และต่างประเทศ สำหรับต่างประเทศบริษัทจะเน้นการจำหน่ายไปในประเทศที่มีความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างสูง หรือประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

และ 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ Bio Compounder หรือการนำเม็ดพลาสติกไปประกอบการผลิตถุงขยะ โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว บริษัทคือผู้ผลิตต้นน้ำ และอยู่ระหว่างการมองหาพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ หรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ไปสู่ปลายน้ำ อย่างไรก็ตามในปี 2564 ทั้ง 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัทยังไม่มีแผนลงทุนขนาดใหญ่ แต่อาจจะลงทุนขนาดเล็กสำหรับการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรให้เป็นออโตเมชั่นมากขึ้น

ขณะเดียวกันบริษัทยังเปิดกว้างโอกาสในการลงทุน เพื่อต่อยอดธุรกิจ ทั้งรูปแบบการลงทุนแบบควบรวมกิจการ หรือ M&A และการทำกิจการร่วมค้า หรือ Joint Venture โดยบริษัทปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อรรองรับการขยายธุรกิจ อีกทั้งอัตราหนี้สินต่อทุน หรือ D/E อยู่ในระดับต่ำ และมีความพร้อม หากต้องการใช้เงินทุน อย่างไรก็ตามบริษัทได้เจรจาเพื่อเข้าลงทุนต่อยอดธุรกิจไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากการศึกษาแผนการลงทุนต้องใช้ระยะเวลา และดูความเหมาะสมกับพันธมิตร