> SET > ERW

09 กุมภาพันธ์ 2021 เวลา 13:18 น.

ERW คาดกำไรฟื้นตัวช้ากว่ากลุ่ม จากการพึ่งพิงรายได้ในประเทศเยอะ

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST ระบุถึง บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ว่าคาดผลการดำเนินงานใน 4Q20E จะขาดทุนสุทธิที่ -413 ล้านบาท จากกำไรสุทธิใน 4Q19 ที่ 176 ล้านบาท แต่ขาดทุนลดลงจาก 3Q20 ที่ -514 ล้านบาท โดยยังคงขาดทุนต่อเนื่องจากผลกระทบจาก COVID-19 ที่ยังไม่มีการเปิดน่านฟ้า แม้ว่าจะกลับมาเปิดโรงแรมได้เต็ม 100% โดยยังต้องพึ่งพาแค่นักท่องเที่ยวในประเทศไทย


โดยมีการฟื้นตัวได้ดีในช่วง ต.ค.-พ.ย. แต่โดนผลกระทบจาก COVID-19 รอบใหม่ในช่วงเดือน ธ.ค. ทำให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องที่ไม่รวม Budget (RevPar) ยังหดตัวลงที่ -82% YoY แต่ดีขึ้นจาก 3Q20 ที่ –90% YoY โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากโรงแรมที่อยู่ในจังหวัดที่ขับรถเที่ยวได้อย่างหัวหินและพัทยาเป็นหลัก ขณะที่ Hop Inn ในประเทศไทยฟื้นตัวได้ดีมาก โดยมี RevPar พลิกกลับมาเป็น +8% YoY จาก 3Q20 ที่ -5% YoY ด้านค่าใช้จ่ายที่ไม่รวมค่าเสื่อมมีการปรับตัวลดลงได้ที่ -30% YoY เพราะจำนวนพนักงานยังกลับมาทำงานไม่เต็มอัตรา แต่เพิ่มขึ้น +15% QoQ จากการกลับมาเปิดโรงแรมครบ 100%


มีการปรับผลการดำเนินงานในปี 2020E ลง -15% เป็นขาดทุนสุทธิที่ -1.65 พันล้านบาท โดยปรับ RevPar ลงเป็น -80% จากเดิมที่ -70% และปี 2021E ลงเป็นขาดทุนสุทธิ -1.18 พันล้านบาท จากเดิมที่ -152 ล้านบาท จากปรับ RevPar ลงเป็น +40% จากเดิมที่ +80% และปรับ SG&A to sale เพิ่มขึ้นเป็น 40% จากเดิมที่ 35% เพื่อสะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 รอบใหม่และมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโรงแรมครบ 100%


จากวัคซีนที่มีการใช้ได้เร็วและกระจายตัวได้ดีกว่าคาด โดยมีจีนเป็นประเทศแรกที่เริ่มฉีดเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย. 2020 และรัสเซีย, อังกฤษ และสหรัฐฯ ตามมาในเมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. และอีกหลายประเทศที่ฉีดกันมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอิสราเอลที่มีสัดส่วนประชากรในประเทศฉีดสูงสุดที่ 60% ของประชากรทั้งหมด (Fig 2) รองลงมาเป็นอังกฤษ, สหรัฐฯ, สเปน, อิตาลี และเยอรมัน รวมถึงมีประเด็นบวกเรื่องวัคซีนพาสปอร์ต แม้ว่า WHO จะยังไม่อยากให้รีบใช้ตอนนี้


แต่เชื่อว่าวัคซีนพาสปอร์ตน่าจะเริ่มใช้ได้ในช่วง 2H21E และจากการศึกษาเราพบว่ามีหลายประเทศทั่วโลกใกล้จะมีการใช้วัคซีนพาสปอร์ตแล้ว คือ สหรัฐ, อังกฤษ , สเปน, กรีซ และเอสโตเนีย ขณะที่ประเทศเซเชลส์ เป็นประเทศแรกที่ใช้มาตรการดังกล่าวเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ วัคซีนจะเริ่มเข้ามาประเทศไทยในเดือน ก.พ. จำนวน 5 หมื่นโดส เดือน มี.ค. จำนวน 8 แสนโดส และเดือน เม.ย. จำนวน 1 ล้านโดส และทั้งปี 2021 จะมียอดรวมทั้งหมดที่ 70 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศได้ 35 ล้านคน หรือคิดเป็น 50% ของประชากรทั้งหมด ทำให้เราคาดว่าผลการดำเนินงานจะพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิได้ในปี 2022E


ทั้งนี้ เราคาดว่า ผลการดำเนินงานของ ERW จะกลับมามีกำไรสุทธิเท่ากับฐานปี 2019 ได้ภายในปี 2024 ซึ่งเร็วกว่าประมาณการเดิมที่คาดไว้ในปี 2025 โดยเรามีการปรับประมาณการกำไรสุทธิของ ERW เพิ่มขึ้น 14-20% ในช่วงปี 2023-2025 จากการปรับรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงแรมที่เราคาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีหลังจากที่เริ่มฉีดวัคซีน


ปรับราคาเป้าหมายปี 2021E เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.80 บาท อิง DCF (WACC 7.6%, terminal growth 2.5%) จากเดิมที่ 3.60 บาท ขณะที่ ERW ได้ประโยชน์มากที่สุดหากมีการให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยได้จากวัคซีนพาสปอร์ต เพราะมีสัดส่วนโรงแรมในประเทศไทย 90% และมี upside เพิ่มจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง (Fig 3) ซึ่งหากตัวเลขยังลดลงได้ต่อ จะช่วยกระตุ้นให้ภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทยกลับมาได้เร็วกว่าที่คาด แต่มีความเสี่ยงเรื่อง Net D/E อยู่ที่ 2.7x ใน 3Q20 ซึ่งสูงกว่า debt covenant ที่ 2.5x ซึ่ง ERW อยู่ระหว่างการขอธนาคารไม่ให้ test อีกรอบในปี 2021E และหากมีการระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยรอบ 2


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X