ทบทวน ผลงานปีที่ผ่านมา....บทเรียนที่ล้ำค่า

ตลาดหุ้นบ้านเราเข้าสู่ช่วงเดือนสุดท้ายของปี63 แล้ว ภาพความคึกคักร้อนแรงของตลาดคงลดลง ตามลำดับ เทียบไม่ได้กับเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา นับจากนี้ไปราวกลางเดือน ธ.ค. คงจะเห็นปริมาณการซื้อขายที่เบาบางลง นักลงทุนต่างชาติที่เคยเป็นผู้นำซื้อหุ้นในช่วงที่ผ่านมา เริ่มชะลอการลงทุนลง และตลาดจะเริ่มกลับมาคึกคักกันอีกครั้งก็หลังปีใหม่ไปแล้ว ซึ่งเป็นภาพที่เกิดขึ้นในทุกๆปีที่ผ่านมา แต่โดยภาพรวมของตลาดเชื่อว่ายังคงเป็นขาขึ้น โดยเฉพาะในปีหน้าที่เราจะคาดหวังต่อสิ่งดีๆที่จะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นได้ครับ

ในเมื่อตลาดดูแล้วน่าจะผ่อนคันเร่ง พักให้น้ำกันในช่วงนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะมีเวลาสำรวจแล้วสรุปดูว่าช่วงปีที่ผ่านมาการลงทุนของเราเป็นอย่างไร ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่เราวางกันไว้หรือไม่ หรือการลงทุนของเราผิดพลาดอย่างไร เก็บเป็นประสบการณ์ในการก้าวต่อไปข้างหน้า หากเราหวังที่จะพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น และอยากเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต ก็ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดทำให้ขาดทุน ในความผิดพลาดนั้นๆมันจะเป็นบทเรียนสอนให้เราได้เสมอ

แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังคือ อย่ากระทำหรือลงทุนในบทเรียนเดิมซ้ำๆที่เราเคยผิดพลาดมา ไม่อย่างนั้นคงพัฒนาการลงทุนของเราให้ดีประสบความสำเร็จอย่างที่ใจพึงหวังไว้ได้ยาก ดังนั้นการที่เราลงทุนแล้วขาดทุนในแต่ละครั้งนั้น ก็จะต้องสรุปบทเรียนให้ได้ว่า ทำไมถึงขาดทุน ซึ่งถ้ารู้ว่าทำไมขาดทุน ก็จะได้หาทางแก้ไขปรับปรุง ไม่ให้ขาดทุนในครั้งต่อไป แต่ถ้าไม่รู้ว่าทำไมขาดทุน ก็ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปลงทุนในสิ่งที่เราไม่รู้จริงประเมินไม่ได้ ก็มีความเสี่ยงที่เราจะทำผิดพลาดขาดทุนซ้ำอีก ก็คงไม่มีใครอยากเป็นอย่างนั้นแน่ครับ

เมื่อสรุปบทเรียนได้แล้วก็กลับมาเริ่มต้นค้นหาเลือกหุ้นเพื่อการลงทุนกันต่อ แต่สิ่งสำคัญเราต้องประเมินมูลค่าของหุ้นในอนาคตได้แล้วจึงเลือกหุ้นซื้อหุ้นเก็บหุ้นแล้วอดทนรอคอย เมื่อราคาหุ้นขึ้นไปเกินมูลค่าที่เราประเมินไว้ก็ขายออกทำกำไรกัน หรือหากมีปัจจัยกระทบที่ทำให้มูลค่าของหุ้น หรือส่งผลกระทบต่อพื้นฐานของหุ้นให้เปลี่ยนแปลงไปให้แย่ลงก็รีบตัดขาดทุนขายทิ้งเสียไม่ต้องไปเสียดาย ยังมีหุ้นดีๆให้เราเลือกพิจารณาลงทุนอีกมากมายที่จะสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับเรา ปฏิบัติแบบนี้ให้เป็นนิสัย ก็จะทำให้การลงทุนของเรามีการพัฒนาก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายที่พึงหวังกันได้แน่นอนครับ

อย่างก็ตาม ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นไทยปีหน้าจะสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้แน่นอน ด้วยปัจจัยหนุนต่างๆจากภายในของเราเองทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ การใช้จ่ายภาครัฐในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อีกทั้ง ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินสภาพคล่องทั่วโลกจำนวนมหาศาลจะไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นมากขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งแท้จริงและในตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนนำทำให้ตลาดหุ้นบ้านเราในปีหน้าดูดีกว่าปีนี้ที่กำลังจะผ่านไปได้อย่างแน่นอนครับ

สรุปการลงทุนในตลาดทุนที่ดีนั้นต้องจดจำ ทบทวนบทเรียนที่ผ่านมา ทั้งที่ประสบความสำเร็จและผิดพลาด นำมาปรับปรุงต่อยอดพัฒนาการลงทุนของเราให้ดีขึ้น ดีขึ้น เพื่อการก้าวเดินไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่ทุกท่านมุ่งหวังกันเอาไว้ โชคดีครับ