ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1430 จุด ก่อนที่จะถูกขายออกมาต่อเนื่องตามแรงกดดันของการแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อโควิดที่มาจากลักลอบเข้ามา ทำให้แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1400 จุด

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ TKN หรือ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)  ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่ายทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า "เถ้าแก่น้อย" รวมถึงขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ

บริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3 ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 88 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.06 บาท กำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 68 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.05 บาท

ในขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 63 มีกำไรสุทธิ 263 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.19 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มีกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.18 บาท

นายจิระพงษ์ สันติภิรมย์กุล รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) เปิดเผยว่า ในปี 63 แม้ว่ายอดขายของบริษัทจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ยังมั่นใจว่ากำไรของบริษัทจะสามารถทำได้มากกว่าปีก่อน เพราะบริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการรวมโรงงานผลิต และการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น

สำหรับตลาดในประเทศในช่วงที่เหลือของปี 63 ในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ เตรียมจะออกวางจำหน่ายสินค้าใหม่ คือ ชานมไต้หวัน ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

ส่วนแนวโน้มยอดขายในประเทศในไตรมาส 3/63 ที่ 320 ล้านบาท ถือว่าฟื้นตัวได้เล็กน้อยจาก 240 ล้านบาทในไตรมาส 2/63 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปี ส่วนไตรมาส 4/63 บริษัทยังอยู่ระหว่างการประมาณการแนวโน้ม เนื่องจากในประเทศไทยยังมีปัจจัยกดดันจากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวที่หายไป ทำให้ขาดปัจจัยหนุนยอดขายในส่วนนี้ ส่วนตลาดต่างประเทศยังคงต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 รอบสองว่าจะคลี่คลายลงได้เร็วหรือไม่

ในปี 64 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตกว่าปี 62 ที่ 5.29 พันล้านบาท จากการมองภาพรวมของสถานการณ์ต่างๆ เริ่มกลับมาดีขึ้นในช่วงต้นปี 64 เป็นต้นไป ทำให้สามารถทำการตลาดและการขายได้เต็มที่ ประกอบการเตรียมขยายตลาดในประเทศจีนเพิ่มขึ้น โดยจะเพิ่มช่องทางการขายผ่านร้านค้าทั่วไป และออนไลน์เข้ามาเสริม จากปัจจุบันเน้นขายเฉพาะช่องทางโมเดิร์นเทรด

ขณะเดียวกันบริษัทจะเพิ่มสินค้าในกลุ่ม Seasoning ในประเทศจีนเข้ามาอีก 2-3 SKU ซึ่งเป็นสินค้ารสชาติใหม่ๆที่ลูกค้าจีนนิยม และลูกค้ามีความต้องการสั่งซื้อ จากปัจจุบันที่เริ่มนำเสนอสินค้า Seasoning ในประเทศจีนไปแล้ว 6 SKU โดยที่ตลาดในประเทศจีนถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการขยายตัวดีมาก และปัจจุบันยอดขายสามารถฟื้นกลับมา หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีนเริ่มคลี่คลายลง และอีกประเทศ คือ สหรัฐฯ บริษัทจะผลักดันการเติบโตของยอดขายในสหรัฐฯปี 64 ให้เพิ่มขึ้นอีก 30-40% จากปีนี้

TKN มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus อยู่ที่ 12.62 บาท โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 15.40 บาท และมีราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 10.50 บาท

ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานจากแรงขายทำกำไรเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงในระยะยาวขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 12.50 และ 13.00 โดยมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 10.80 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 10.00

สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Trendtalk