ทันหุ้น - TFG ประเมินผลงานไตรมาส 4/2563 คาดย่อตัวลงเล็กน้อยตามฤดูกาล เทียบกับไตรมาสที่ 3/2563 เเต่ทั้งปียังมั่นใจผลงานโตได้ราว 8-9% พร้อมเดินแผนขยายธุรกิจตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นนักวิเคราะห์คาดแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/2562 เพิ่มขึ้นจากการบริโภคในประเทศ และส่งออกเริ่มกลับมาฟื้นตัว

นายสัตวแพทย์ เพชร นันทวิสัย รองประธานสายงานฟาร์มและพัฒนาคุณภาพ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4/2563ตามฤดูกาลจะเป็นช่วงที่่ผลประกอบการค่อนข้างชะลอตัวจากช่วงไตรมาสที่ 3/2563ขณะที่บริษัทยังมองว่ารายได้รวมปีนี้ยังสามารถเติบโตไปตามแผนที่วางไว้ได้ราว 8-9%เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ทำได้ 29,109.69ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการจากช่วงต้นปีที่คาดว่ารายได้จะเติบโต ราว 10%โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจไก่ 50%, ธุรกิจสุกร 30%, และธุรกิจอาหารสัตว์และอื่นๆ อีก 20% และภาพรวมการส่งออก ณ สิ้นปี 2563มีแนวโน้มแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท

ด้านแผนการลงทุน ยังเดินหน้าต่อเนื่อง อาทิ ขยายงานทางด้านสุกร ทั้งในส่วนของโรงงานอาหารสัตว์ (Feed), โรงชำแหละ-แปรรูปสุกร, ขยายฟาร์มสุกร จำนวน 6ฟาร์ม คาดว่าจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตอย่างละ 10%เตรียมรองรับแผนการเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างประเทศ (Overseas) ในอนาคต ทั้งนี้ปัจจุบันยอดขายจากต่างประเทศมาจากเวียดนามเป็นหลัก ราว ราว 500-600ล้านบาท ถือว่ายังเป็นสัดส่วนที่น้อย คาดว่าในอนาคตจะเพิ่มต่อเนื่องในประเทศเริ่มผ่อนคลาย

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุถึง บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG คาดแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3/2563 เพิ่มขึ้นจากการบริโภคในประเทศ และส่งออกเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์โควิ-19 ในประเทศเริ่มผ่อนคลาย ประกอบโรคระบาดในสุกร (ASF) และโรคไข้หวัดนกระบาดในไก่ในประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงจีนและเวียดนาม ส่งผลให้ยอดส่งออกไทยทั้งสุกรและสินค้าทดแทนเช่นไก่ยังเติบโต อีกทั้งTFG ยังคงแผนขยายธุรกิจสุกรและอาหารสัตว์รองรับ demand ที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาโรคระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน โดยคาดผลประกอบการปีนี้เพิ่มขึ้น 23% และปีหน้ายังเติบโตได้ 20%

ส่วนกำไรสุทธิปีนี้เพิ่มขึ้น 23% เทียบกับปีก่อน จากปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขิ้น 15% อยู่ที่ 60,000 ตัน จากการส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น และ ยุโรป รวมถึงจีนที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะยอดส่งออกจะได้ผลกระทบ โควิด-19 โดยเฉพาะในยุโรปจากปัญหาการขนส่งในช่วงไตรมาสที่ 2/2563 แต่สถานการณ์ปัจจุบันเริ่มกลับมาส่งออกได้ตามเป้าหมาย

สำหรับต้นทุนอาหารสัตว์โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองนำเข้าบริษัทได้มีการล็อกราคาไว้ถึงสิ้นปีนี้แล้ว และราคาข้าวโพดในประเทศ บริษัทได้มีการล็อกราคาข้าวโพดอาหารสัตว์ไว้แล้วถึงไตรมาสที่ 3/2563 บริษัทยังคงวางงบลงทุนขยายกำลังการผลิต 2,500-3,000 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีนี้ จากการขยายกำลังการผลิตสุกรในประเทศปีนี้เพิ่มขึ้น 10% ปีหน้าเพิ่มขึ้น 15% และขยายกำลังการผลิตสุกรในเวียดนามเพิ่มเท่าตัวในไตรมาสที่ 2/2564 และขยายโรงงานอาหารสัตว์ พร้อมขยายธุรกิจ food ไส้กรอก ไปกับช่องทางจำหน่ายของสาขาที่มีอยู่

ฝ่ายวิเคราะห์ คาดแนวโน้มผลประกอบการช่วง 3 ปียังเติบโตต่อเนื่องจากปริมาณความต้องการเพิ่มขึ้นทั้งเนื้อไก่และสุกรจากผลกระทบโรคระบาดในสุกรที่ประเทศจีนและเพื่อนบ้าน ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 5.40 บาท