> Digital Coin >

18 ตุลาคม 2020 เวลา 11:00 น.

นักลงทุนสถาบัน ตัวแปรสำคัญที่จะยกระดับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล

แม้นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลจะยังคงเป็นรายย่อยทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ (หรือน่าจะเกือบทั้งหมด) แต่ตอนนี้เริ่มที่จะเห็นนักลงทุนสถาบันรวมถึงสถาบันการเงินกำลังให้ความสนใจที่จะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีว่าอุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโตไปในอีกระดับหนึ่ง


ทั้งนี้สินทรัพย์ดิจิทัลที่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจก็คือบิทคอยน์ (BTC) เนื่องจากมีมาร์เกตแคปที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติของการเป็นสิ่งกักเก็บมูลค่า (Store Of Value) เช่นเดียวกับทองคำ


การที่ราคาบิทคอยน์เริ่มมีความผันผวนที่น้อยลงในช่วงที่ผ่านมาส่วนสำคัญเป็นเพราะการถือครองของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง


Grayscale ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในบิทคอยน์โดยเฉพาะในรูปแบบของกองทรัสต์ ปัจจุบันถือครองบิทคอยน์รวมกว่า 450,000 BTC หากคำนวนจากราคาปัจจุบันที่ 11,500 ดอลลาร์ เท่ากับว่าถือครอง BTC รวมมูลค่ากว่า 5,175 ล้านดอลลาร์


ขณะที่ ฟิเดลลิตี้ ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯได้เปิดให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลรวมถึงธนาคารขนาดใหญ่อันดับต้นๆของโลกเจพีมอร์แกนก็อนุญาตให้ลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผูกกับบัญชีซื้อขายปกติได้ 


รวมถึงธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินของโลกเริ่มที่จะเปิดบริการบัญชีซื้อขายและรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วเช่นกัน


ขณะที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ อย่าง Microstrategy ซึ่งดำเนินธุรกิจให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารทางด้านธุรกิจ ได้เข้าซื้อบิทคอยน์เข้ามาเป็นเงินทุนสำรองของบริษัทด้วยมูลค่ากว่า 250 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 8,000 ล้านบาท 


เช่นเดียวกับ Square ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชำระเงินก่อตั้งโดยนาย Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ได้รายงานล่าสุดว่าได้เข้าซื้อบิทคอยน์ด้วยมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ โดยให้เหตุผลว่ามองเห็นศักยภาพในการเติบโตของบิทคอยน์ในการที่จะเป็นหนึ่งในสกุลเงินของโลก


ทางด้านสื่อระดับโลกอย่างสำนักข่าวบลูมเบิร์กได้เพิ่มบทวิเคราะห์เกี่ยวกับบิทคอยน์ขึ้นมาโดยเฉพาะรวมถึงสร้างดัชนี Bitcoin Index ขึ้นเพื่อเป็นตัวชี้วัดการลงทุน


สำหรับประเทศไทย เริ่มเห็นบริษัทหลักทรัพย์ให้ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยการแตกไลน์ธุรกิจออกมาขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์กลางซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ไม่ว่าจะเป็น Zipmex ที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทหลักทรัพย์เออีซี 


รวมถึงการที่ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมถึงบริษัทลูกของสถาบันการเงินขนาดใหญ่อย่างธนาคารกสิกรไทยในชื่อ KBTG ได้ออกมาประกาศลงทุนในแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล บ่งบอกให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันทั่วโลกกำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัล


ไม่เพียงแต่บิทคอยน์ แต่ยังมีสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทที่มีสินทรัพย์หนุนหลัง (Asset Backed) ที่กำลังเป็นแนวโน้มของการลงทุนรูปแบบใหม่ซึ่งนักลงทุนสถาบันกำลังให้ความสนใจ เช่นการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์หนุนหลัง โดยประเทศไทยเร็วๆนี้ก็จะมีการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. อย่างถูกต้องเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


การที่นักลงทุนสถาบันเข้ามาในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล มองมุมไหนก็มีแต่ข้อดีมากกว่าข้อเสีย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาทำให้ราคามีเสถียรภาพมากขึ้นรวมถึงทำให้นักลงทุนที่ยังอยู่มุมนอกมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ยิ่งหากการเสนอขาย STO (Securities Token Offering) ได้รับการรับรองทางกฎหมายมากขึ้นจะยิ่งดึงเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันที่อยู่ในโลกการเงินเก่าเข้ามามากยิ่งขึ้นไปอีก


บทความโดย Supercryptonews

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X