สิ้นสุดการรอคอยสำหรับสาวก Apple และผู้ใช้บริการ iPhone ทั่วโลก หลังจากเมื่อคืน (14 ต.ค. 63 ประมาณเที่ยงคืน ตามเวลาของประเทศไทย) Apple มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 ตัว ได้แก่ iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจเปิดตัวออกมาด้วย (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ apple.com)

พัฒนาการที่สำคัญของ Apple ที่เกี่ยวกับ iPhone 12 ก็คือ รองรับเทคโนโลยี 5G ซึ่งเราเชื่อว่าสาวกหลายท่านคาดหวังว่าจะได้เห็น iPhone ที่รองรับ 5G หลังจากที่โทรศัพท์มือถือรุ่นอื่นๆได้พัฒนานำหน้า Apple ไปก่อนแล้ว ทำให้ราคาหุ้น Apple Inc. ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวบวกขึ้นไป 3% ก่อนวันเปิดตัว และปรับตัวลดลง 3% รับข่าวการเปิดตัว iPhone 12

ด้านราคาเครื่อง ในมุมมองของเรามีความเห็นว่า จับต้องได้และไม่แพงเกินไปสำหรับคนที่มีกำลังซื้อ ภายใต้สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 แต่ต้องมาดูกันอีกทีว่าราคาที่เข้ามาจำหน่ายในไทยเป็นอย่างไร

ส่วนที่มีเสียงวิพากย์วิจารณ์มากที่สุดในการเปิดตัวครั้งนี้ คือ การที่ Apple ไม่แถม Adapter สำหรับชาร์จและหูฟังภายในกล่อง ไม่เพียงแค่ซีรีส์ของ iPhone 12 เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงซีรีส์เดิมอย่าง iPhone 11 และ iPhone SE 2 ด้วยที่จะไม่แถมอุปกรณ์ดังกล่าว ส่วนนี้เราถือเป็นข้อเสียของ iPhone เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นการเพิ่ม Cost ให้ผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อ iPhone

เกริ่นกันมายาวมากสำหรับ iPhone12 คราวนี้เรามาวิเคราะห์หุ้น COM7 กันบ้าง แน่นอนว่าการเปิดตัวครั้งนี้ ส่งผลบวกต่อราคาหุ้น COM7 พอสมควร เนื่องจากในเช้านี้ (14 ต.ค. 63) ราคาหุ้นเปิดบวกขึ้นมาเล็กน้อยที่ +0.25 บาท ถึงแม้ว่าจะมีสถานการณ์การเมืองในประเทศที่รุนแรง เข้ามากดดันตลาดหุ้นไทยให้เกิด Sentiment ลบ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามอื่นๆสำหรับนักลงทุนที่สนใจหุ้น COM7มีดังนี้

1. ราคา iPhone 12 เมื่อแปลงเป็นเงินบาทแล้วอยู่ที่เท่าไรแพงเกินไปในมุมมองของผู้ใช้บริการหรือไม่ ซึ่งจะกระทบต่อความต้องการซื้อสินค้าอย่างแน่นอน

2. รายได้และกำไรสุทธิ Q4/63 เติบโตขึ้นหรือไม่เมื่อเทียบกับ Q4/62 ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่า เมื่อ iPhone 12 ออกมาแล้วขายดีกว่า iPhone 11 ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายใน Q4/62 หรือไม่

3. สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทย ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค หากการระบาดรุนแรงขึ้น อาจส่งผลให้กำลังซื้อมีแนวโน้มลดลง ทำให้ความต้องการซื้อมีแนวโน้มลดลงตามมา

4. การแข่งขันภายในธุรกิจเนื่องจากตลาดโทรศัพท์มือถือ-คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง มีการแข่งขันสูงมาก จึงต้องติดตามกันว่า COM7 จะยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดเดิมหรือทำให้เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งต้องมาวิเคราะห์ผ่านรายได้และกำไรสุทธิทั้ง Q3 และ Q4 ของปี 63

5. เป็นธุรกิจที่มีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาขายในไทย ทำให้มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน หากอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนสูง หรือมีแนวโน้มอ่อนค่า อาจทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าของเพิ่มขึ้นเป็นผลเสียต่อ COM7

สรุปจากปัจจัยติดตาม เรามีความกังวลต่อสถานการณ์ของ COVID-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย กดดันต่อกำลังซื้อและความต้องการซื้อของผู้บริโภค ประกอบกับการแข่งขันภายในธุรกิจที่สูงมาก ทำให้นักลงทุนที่สนใจหุ้นของ COM7 ต้องลุ้นกันไปจนถึงการประกาศผลการดำเนินงาน Q4/63 หรือผลการดำเนินงานปี 63 ซึ่งจะประกาศในเดือน ก.พ. 64 หรือปีหน้ากันเลยทีเดียว

แต่สำหรับนักเก็งกำไรแล้ว เราได้วิเคราะห์มุมมองทางเทคนิค และมีคำแนะนำสำหรับหุ้น, Single Stock Futures และ Block Trade ของ COM7 ดังนี้

ราคาหุ้น COM7 มีแนวโน้มขาขึ้น และแนวรับใกล้ที่สุดบริเวณ 41 บาท การที่ราคาหุ้นเป็นขาขึ้น ทำให้การเปิดสถานะ Long มีความได้เปรียบ โดยเราแนะนำ Long บริเวณ 41-42 บาท ใช้แนวรับ 41 บาทเป็นจุด Stop Loss และเป้าหมายทำกำไร 43 หรือลุ้น All Time High หากการจำหน่าย iPhone 12 มีกระแสตอบรับในไทยเป็นอย่างดี

ในทางกลับกัน หากราคาหุ้นหลุดลงมาต่ำกว่า 41 บาท อาจทำให้ราคาหุ้นพลิกมาเป็นขาลงระยะสั้น ณ จุดนั้น สามารถเปิดสถานะ Short ตามลงมาได้ จะมี Stop Loss ที่ 41 บาทเช่นเดียวกับฝั่ง Long และมีเป้าหมายการทำกำไรอยู่ที่ 39 และ 40 บาทตามลำดับ

หมายเหตุ: ราคาหุ้น ณ วันที่ 14 ต.ค. 2563

ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน คลาสสิก ออสสิริส จำกัด

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่

APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5

FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1