ทันหุ้น-สู้โควิด-KSLมองราคาน้ำตาลมีแนวโน้มสูงขึ้น หลังซัพพลายลดลง เดินหน้าแปรรูปน้ำตาล หวังดันมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ธุรกิจเอทานอลดีมานด์เติบโตดี เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตอีก 2 แสนลิตรต่อวัน ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้ารอความชัดเจนจากภาครัฐ ขณะที่ผลงานทั้งปีพยายามรักษาใกล้เคียงปีก่อน โบรกเคาะราคาเป้าหมาย 3.20 บาท

นายชลัช ชินธรรมมิตร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ KSL เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานงวดปีบัญชี(62/63 พ.ย.62-ต.ค.63) บริษัทจะพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้ใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ได้กระทบต่อราคาส่งออกลดลงบ้างเล็กน้อย ขณะที่ปัจจุบันราคาส่งออกน้ำตาลอยู่ 11 เซนต์ต่อปอนด์ ถือว่าปรับตัวลงต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับที่ผ่านมาอยู่ที่ 13 เซนต์ต่อปอนด์ คาดว่ามาจากการแพร่ระบาดของไวรัส และภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก

อย่างไรก็ดีมองว่าราคาน้ำตาล จะไม่ปรับตัวลดลงกว่าระดับดังกล่าวแล้ว เนื่องจากซัพพลายอ้อยปีนี้ค่อนข้างน้อยมาก โดยปริมาณอ้อยทั้งประเทศอยู่ที่ 74 ล้านตันอ้อย เทียบกับช่วงก่อนจะมากกว่า 100 ล้านตันอ้อย ส่วนปริมาณอ้อยเข้าหีบของบริษัทปีนี้ทำได้เพียง 5 ล้านตันอ้อย ซึ่งต่ำกว่าระดับปกติ

แปรรูปน้ำตาลเพิ่มมาร์จิ้น

อย่างไรก็ดีก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันแนวโน้มการบริโภคน้ำตาลเปลี่ยนแปลงไป เพราะประชาชนมีการรักษาสุขภาพมากขึ้น ทำให้บริษัทก็มีการคิดค้นวิจัยที่จะผลิตน้ำตาลที่เป็นน้ำตาลพิเศษ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้แก่บริษัทในระยะยาว

“ตอนนี้ราคาน้ำตาลก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับปัจจุบัน เพราะว่าปีนี้ซัพพลายอ้อยลดลงมาก ทั้งในประเทศ และปริมาณอ้อยเข้าหีบของบริษัท จึงเชื่อว่าจะเป็นโอกาสให้ราคาปรับตัวดีขึ้น แต่ในด้านปริมาณขายก็อาจจะลดลงไปบ้าง ซึ่งบริษัทก็ได้มีการปรับตัว หลังทำการวิจัยเรื่องน้ำตาลประเภทใหม่ๆ อย่างน้ำตลาดแคลลอลี่ต่ำ เป็นต้น เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น” นายชลัช กล่าว

สำหรับธุรกิจอื่นธุรกิจที่ต่อยอดจากกระบวนการผลิตน้ำตาลได้แก่ ธุรกิจเอทานอล ที่ใช้ผสมกับน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์, ธุรกิจโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพ ใช้วัตถุดิบที่เป็นน้ำเสียที่มาจากกระบวนการผลิตเอทานอล,โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้วิตถุดิบที่เป็นของเสียจากกระบวนการผลิตน้ำตาล ซึ่งโดยภาพรวมปีนี้ธุรกิจเอทานอลก็อยู่ในระดับที่ดี มีดีมานด์เพิ่มขึ้น ทั้งจากการผลิตแอลกอฮอลล์ เป็นต้น อย่างไรก็ดีจากการที่มีดีมานด์เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทมีการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 2 แสนลิตรต่อวัน งบลงทุนราว 1 พันล้านบาท ส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมทั้งกลุ่มบริษัทเป็น 8 แสนลิตรต่อวัน

พร้อมลุยธุรกิจไฟฟ้า

ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันขายไฟฟ้าอยู่ที่ราว 52 เมกะวัตต์ และที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ(COD) แล้วให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) คาดว่าจะมาช่วยสนับสนุนผลประกอบการให้การเติบโตได้เป็นอย่างดี สำหรับธุรกิจไฟฟ้าบริษัทยังไม่มีแผนการลงทุนเพิ่มเติมในปีนี้ ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่จะต้องรอความชัดเจนจากทางภาครัฐ หากภาครัฐมีความชัดเจนเรื่องการรับซื้อไฟฟ้าเพิ่มขึ้น บริษัทก็มีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มได้อีก 50 เมกะวัตต์ เพราะมีวัตถุดิบรองรับ และมีความพร้อมทางด้านเครื่องจักรและเทคโนโลยี ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ก็ยังอยู่ระหว่างรอความชัดเจน ซึ่งบริษัทก็มีความพร้อมเช่นเดียวกัน

ด้านบริษัท หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ KSL ราคาเป้าหมาย 3.20 บาท โดยมองว่า ราคาน้ำตาล เพิ่มขึ้น 6.47% เทียบกับสัปดาห์ก่อน เพราะราคาเอทานอลฟื้นตัวตามน้ำมันดิบ ทำให้โรงงานในบราซิลนำอ้อยไปผลิตเอทานอลแทน้ำตาลมากขึ้น ประกอบกับอินเดีย และบราซิลมีปัญหาการขนส่งล่าช้า เนื่องจากโควิดระบาด 

ทั้งนี้คาดราคาน้ำตาลจะเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนเพราะภัยแล้งทำให้ผลผลิตและการส่งออกน้ำตาลของอินเดียและไทยลดลง ประกอบกับราคาในเดือนพฤษภาคมต่ำกว่าต้นทุนปี 2563 คาดว่าราคาน้ำตาลจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาที่ 13-14 เซ็นต์ต่อปอนด์ เพิ่มขึ้นจาก 12.70 เซ็นต์ในปี 2562 เนื่องจากผลผลิตน้ำตาลโลกในปี2563 จะลดลง และทำให้เกิดอุปทานกลับมาสมดุลในปี 2563